Vans แบรนด์รองเท้า สายสตรีต ที่เกิดจาก คนกวาดพื้นโรงงาน

Vans แบรนด์รองเท้า สายสตรีต ที่เกิดจาก คนกวาดพื้นโรงงาน

24 พ.ย. 2022
Vans แบรนด์รองเท้า สายสตรีต ที่เกิดจาก คนกวาดพื้นโรงงาน | BrandCase
ถ้าหากพูดถึงรองเท้าสายสตรีต
Vans คงเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นสายสตรีตที่ทุกคนนึกถึง
โดยเฉพาะคนที่เล่นกีฬาสเกตบอร์ดแล้วละก็
Vans น่าจะเป็นแบรนด์ในใจเลยทีเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า ผู้ก่อตั้ง Vans เป็นเด็กเรียนไม่จบ
และเคยเป็นคนกวาดพื้นในโรงงานรองเท้ามาก่อน
เรื่องราวของแบรนด์รองเท้า ขวัญใจคนเล่นสเกตบอร์ด มีที่มาอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
Vans ถูกก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ Van Doren
แต่ก่อนที่เขาจะสามารถสร้างแบรนด์ Vans ให้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ ในช่วงวัยเด็กของเขา เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาทีเดียว
เพราะคุณ Van Doren ได้ออกจากโรงเรียนตั้งแต่เกรด 8 หรือเทียบเท่ากับระดับมัธยมต้นของบ้านเรา ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่ชอบเรียนหนังสือ และเขาคิดว่าการลาออก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
หลังจากที่ลาออกจากโรงเรียนได้พักใหญ่ ๆ คุณแม่ของคุณ Van Doren จึงให้เขาไปทำงานที่โรงงานรองเท้า Randy's ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกันกับที่เธอทำงานเป็นช่างตัดเย็บอยู่
โดยตำแหน่งแรกของคุณ Van Doren คือ คนกวาดพื้นในโรงงาน
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานมานานหลายปี คุณ Van Doren จึงตัดสินใจก่อตั้งโรงงานรองเท้าเป็นของตัวเอง โดยมีน้องชายและเพื่อนอีก 2 คน มาร่วมกันก่อตั้งโรงงาน
ในปี 1966 โรงงาน Van Doren Rubber Company และหน้าร้าน ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
โดยมีจุดเด่นคือ เป็นโรงงานผลิตรองเท้าแห่งที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา ที่เลือกใช้ยางดิบผสมผงกำมะถัน (Vulcanised Rubber) มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตรองเท้า
เช่นเดียวกันกับ Randy's, Keds และ Converse บริษัทผลิตรองเท้าชื่อดังในสหรัฐอเมริกาในยุคนั้นนั่นเอง
ในวันแรกที่เปิดขาย Vans ไม่ได้มีสต็อกรองเท้าพร้อมขายเลย
ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อในตอนเช้าของวันนั้น ต้องกลับมารับรองเท้าอีกครั้งในช่วงบ่ายแทน
ด้วยความที่ Vans เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขายเอง แถมร้านและโรงงานทำรองเท้ายังอยู่ที่เดียวกัน
ทำให้ Vans สามารถนำเสนอบริการที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ รับทำรองเท้าแบบ Custom-Made ตามออร์เดอร์ลูกค้า
จากจุดนี้เองที่ทำให้รองเท้า Vans มีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มสั่งทำรองเท้า ที่มีลวดลายหรือสีสันเฉพาะเพิ่มมากขึ้น
จนสามารถขยายสาขาเพิ่มเป็น 10 สาขาได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนนิด ๆ เท่านั้น
ซึ่งหลังจากผ่านไปได้แค่ปีครึ่ง Vans ก็มีหน้าร้านมากถึง 50 สาขาแล้ว
แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้รองเท้าของ Vans กลายเป็นรองเท้าขวัญใจนักสเกตบอร์ด เริ่มขึ้นเมื่อช่วงปี 1970s
ในตอนนั้นกระแสการเล่นสเกตบอร์ดในสหรัฐอเมริกากำลังมาแรง แต่แบรนด์รองเท้าหลาย ๆ เจ้าในช่วงเวลานั้น ต่างหันไปผลิตรองเท้ากีฬาประเภทอื่น ๆ เช่น บาสเกตบอล กันมากกว่า
ทำให้คุณ Van Doren เห็นช่องว่างทางการตลาดนี้ และไม่รอช้าที่จะเข้าไปจับตลาดกลุ่มคนเล่นสเกตบอร์ด
ซึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นหลัก ๆ ของแบรนด์ Vans ก็คือ พื้นรองเท้า “Waffle Sole” ที่ทั้งหนา หนึบ และทนทาน หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า ยางลายวอฟเฟิล
ต่อมาเป็นเรื่องของการบริการ Custom-Made ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกชนิด และลายผ้าได้ตามความต้องการ ซึ่งเป็นบริการที่ถูกใจ ของเหล่าคนเล่นสเกตบอร์ด ที่ต้องการรองเท้าที่มีดิไซน์แบบเท่ ๆ ไม่ซ้ำใคร
พอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้แบรนด์ Vans เป็นที่นิยมในหมู่คนเล่นสเกตบอร์ดอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ แบรนด์ Vans ยังทำการตลาดด้วยการจับมือกับคุณ Tony Alva และคุณ Stacy Peralta สองนักสเกตบอร์ดชื่อดัง ออกแบบรองเท้ารุ่น Era
ที่มาพร้อมกับฟองน้ำหุ้มรอบข้อเท้า และสีสันที่แตกต่างไปจากเดิม จนสร้างเสียงฮือฮาและทำให้รองเท้ารุ่น Era กลายเป็นรองเท้าที่นักสเกตบอร์ดเลือกใช้
หรือการออกแบบรองเท้ารุ่น Old Skool ที่มีการใส่ลวดลายเอกลักษณ์อย่างลาย Jazz Stripe ที่มีลักษณะคล้ายระลอกคลื่นลงไป
ซึ่งได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ซิกเนเชอร์ที่โดดเด่นของแบรนด์ Vans มาจนถึงทุกวันนี้
ไปจนถึงรุ่น Slip-On ที่ทำให้แบรนด์ Vans โด่งดังไปทั่วโลก
ในช่วงปลายของยุค 70s แบรนด์ Vans มีหน้าร้านมากกว่า 70 สาขาในแคลิฟอร์เนีย และจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นี้ ทำให้ Vans สามารถขยายช่องทางการขายออกสู่ต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามในปี 1984 หลังจากที่คุณ Van Doren ให้น้องชายเข้ามาดูแลบริษัทแทน แต่กลับมีการบริหารงานที่ผิดพลาด
เนื่องมาจากบริษัทไปเน้นการแตกไลน์รองเท้ากีฬาประเภทอื่น ๆ แทน ทำให้บริษัทกลายเป็นหนี้ก้อนโต จนสุดท้ายต้องยื่นขอล้มละลาย
คุณ Van Doren จึงต้องกลับมาบริหารบริษัทอีกครั้ง ซึ่งเขาก็สามารถใช้หนี้ และฟื้นฟูกิจการกลับมาได้อีกครั้ง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในปี 1988 คุณ Van Doren ได้ขายบริษัทที่สร้างมากับมือ ให้กับบริษัทการลงทุนชื่อว่า McCown De Leeuw & Co. ด้วยมูลค่าบริษัทราว 2,600 ล้านบาท
และต่อมาในปี 2004 Vans ก็ถูกขายให้กับ VF Corporation
ซึ่ง VF Corporation เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้า ที่คนไทยคุ้นหูอย่าง The North Face, Timberland, Kipling, JanSport
รวมไปถึงแบรนด์แฟชั่นแนวสตรีตระดับท็อปสตาร์อย่าง Supreme
และนี่คือเรื่องราวของ แบรนด์ Vans ที่เกิดขึ้นจากผู้ก่อตั้งที่เรียนไม่จบ และเริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นคนกวาดพื้นในโรงงานรองเท้า
จนสามารถสร้างแบรนด์รองเท้า Vans ที่โด่งดังไปทั่วโลก ได้สำเร็จ..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.