Apple กับ Motorola เคยร่วมกันทำมือถือ แต่ปีเดียวก็เลิก

Apple กับ Motorola เคยร่วมกันทำมือถือ แต่ปีเดียวก็เลิก

13 ก.ย. 2022
Apple กับ Motorola เคยร่วมกันทำมือถือ แต่ปีเดียวก็เลิก | BrandCase
เราเห็นเคสที่สำเร็จของ Apple กันมาเยอะแล้ว วันนี้มาดูเคสที่ Apple ก้าวพลาดบ้าง..
ที่เห็นในภาพ คือสตีฟ จอบส์ กำลังเปิดตัว Motorola ROKR E1 หรือที่เรียกกันว่า “iTunes Phone” 
Motorola ROKR E1 คือโทรศัพท์มือถือที่ Apple ทำร่วมกับ Motorola และ Cingular ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ในสหรัฐอเมริกา
ที่สำคัญ มันคือโทรศัพท์มือถือรุ่นแรก ที่มีฟีเชอร์ iTunes ฝังอยู่ข้างใน
แต่รู้หรือไม่ หลังจากเปิดตัวและวางขายไปได้แค่ปีเดียว
Apple ก็เลิกสนับสนุนโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้
ส่วน Motorola ก็ต้องไปหาโปรแกรมเล่นมีเดียของเจ้าอื่น มาแทน iTunes
เรื่องราวตอนนั้นเป็นอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าเรื่องมุมนี้ ที่หลายคนไม่เคยรู้ให้อ่านกัน
ในปี 2005 ตอนนั้น iPod ของ Apple กำลังเป็นที่นิยม 
แต่เพราะรายได้เกือบครึ่งหนึ่งของ Apple มาจาก iPod 
สตีฟ จอบส์ เลยกลัวว่าในอนาคตถ้าโทรศัพท์มือถือใส่เพลงลงไปได้ ก็อาจจะไม่มีใครซื้อ iPod
เมื่อคิดแบบนั้น เขาเลยชิงทำโทรศัพท์มือถือเองเสียเลย
โดยสตีฟ จอบส์ ตัดสินใจร่วมมือกับ Motorola ที่ตอนนั้นก็กำลังเป็นแบรนด์ดังในวงการ มาช่วยกันสร้างโทรศัพท์มือถือ
เหตุผลที่เขาเลือกจับมือกับ Motorola นั้น เป็นเพราะว่า สตีฟ จอบส์ เป็นเพื่อนกับ เอ็ด แซนเดอร์ ซึ่งเป็นซีอีโอของ Motorola 
และในสมัยนั้นมือถือของ Motorola กำลังได้รับความนิยมมาก ๆ และรุ่นที่เป็นซิกเนเชอร์ของแบรนด์ ก็คือ Motorola Razr โทรศัพท์รุ่นฝาพับที่ตัวเครื่องบาง ๆ และมีกล้องดิจิทัลในตัว
สุดท้ายโทรศัพท์ที่เกิดจากการร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 กันยายน ปี 2005 โดยใช้ชื่อรุ่นว่า ROKR E1 
ซึ่งต้องบอกว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ Apple ทำแค่ซอฟต์แวร์ iTunes ให้ ส่วน Motorola ก็รับหน้าที่ออกแบบตัวเครื่องไป
ประเด็นคือ หน้าตาของโทรศัพท์ มีความเทอะทะ วัสดุที่ใช้ก็เป็นพลาสติก กล้องที่ได้มาก็ไม่ได้มีคุณภาพดีมากนัก
ที่หนักไปกว่านั้นคือ จุดเด่นที่บอกว่า ROKR E1 จะเป็น “โทรศัพท์ iTunes” โทรศัพท์ที่ช่วยให้การฟังเพลงง่ายขึ้น กลับมีการใช้งานที่ยุ่งยากมากกว่าเดิม 
ตั้งแต่การดาวน์โหลดที่ต้องซื้อเพลงผ่าน iTunes 
จากนั้นถึงจะสามารถโอนเพลงที่ซื้อไปยังโทรศัพท์ได้โดยใช้สายเคเบิล และจำกัดได้แค่ 100 เพลง เท่านั้น 
ในขณะที่ iPod เครื่องแรกกลับสามารถบรรจุเพลงได้มากถึง 1,000 เพลง 
และยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเครือข่าย ที่สามารถใช้งานได้เฉพาะแค่เครือข่ายของ Cingular เท่านั้น
นอกจากนี้ภายในงานเปิดตัว  Motorola ROKR E1 ในช่วงที่มีการสาธิตการใช้งานก็มีข้อผิดพลาดอีก
คือ สตีฟ จอบส์ พยายามจะโชว์ให้เห็นว่า ถึงแม้จะมีสายโทรเข้ามาระหว่างฟังเพลง แต่เมื่อวางสายแล้วเพลงก็จะเล่นต่อจากจุดเดิมให้ แต่ผลที่ได้คือเพลงกลับเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น
ซึ่งสตีฟ จอบส์ ก็แก้ไขสถานการณ์ด้วยการบอกว่า “ฉันกดปุ่มผิด”
เรื่องนี้ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า นี่มันเรียกว่าโทรศัพท์ iTunes ตรงไหน ?
แน่นอนว่าหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือ Motorola รุ่น ROKR E1 ก็ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการใช้งาน และตัวเครื่องที่เรียกว่า ต่ำกว่ามาตรฐานที่ทุกคนคาดไว้ 
สื่อใหญ่ต่างพาดหัวข่าวเชิงหัวเราะเยาะ กับโทรศัพท์ที่ Apple มีส่วนร่วม 
ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ Apple ไม่สามารถควบคุมได้ทุกกระบวนการ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทั้งในแง่ของคุณภาพ และการออกแบบที่ไม่มีความมินิมัลตามแบบที่ สตีฟ จอบส์ ชอบ 
ซึ่งหลังจากผ่านไปเพียงแค่ 1 ปี Apple ก็ได้ยกเลิกการสนับสนุนโทรศัพท์ Motorola รุ่น ROKR E1
เรียกได้ว่า ROKR E1 เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก ที่ได้รับอนุญาตให้สามารถใช้งาน iTunes ได้ และก็เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องสุดท้ายจากแบรนด์อื่น ที่ได้สิทธิ์นี้เช่นกัน
โดยหลังจากปี 2006 ที่ Apple ยกเลิกการสนับสนุน Motorola ก็ไม่มี iTunes ของ Apple อยู่บนเครื่องโทรศัพท์ของแบรนด์อีกต่อไป 
แล้วแบรนด์ Motorola ก็หันไปใช้ซอฟต์แวร์ของ RealPlayer แทน ในเวลาต่อมา
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ สตีฟ จอบส์ หันมาผลิตโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง
และนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา 
ทุกคนก็ได้รู้จักกับสมาร์ตโฟนที่มีชื่อว่า “iPhone”..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ 
ครั้งหนึ่ง สตีฟ บอลเมอร์ อดีต CEO ของ Microsoft เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “iPhone เป็นโทรศัพท์ที่แพงที่สุดในโลก และไม่ดึงดูดลูกค้าธุรกิจเพราะไม่มีแป้นพิมพ์” 
แต่หลังจากเปิดตัวได้เพียง 70 วัน Apple ก็สามารถขาย iPhone ได้มากถึง 1 ล้านเครื่อง และ 6 เดือนต่อมา iPhone ก็ได้กลายเป็น สิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของปี ของนิตยสาร TIME
References
-หนังสือ สตีฟ จ็อบส์ โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.