วิเคราะห์สูตร ทำหนังร้อยล้าน ของ GDH

วิเคราะห์สูตร ทำหนังร้อยล้าน ของ GDH

5 ก.ย. 2022
วิเคราะห์สูตร ทำหนังร้อยล้าน ของ GDH | BrandCase
ถ้าถามว่า ภาพยนตร์ไทย เรื่องไหน ที่เป็นเรื่องโปรดของคุณ ?
ภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง ที่กำลังนึกถึงอยู่นั้น น่าจะมาจาก ค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง GDH 559 หรือที่เมื่อก่อนชื่อว่า GTH
ค่ายหนังนี้ ก็ได้สร้างภาพยนตร์ให้เป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำ ในหลาย ๆ เรื่อง
เช่น แฟนฉัน, พี่มาก…พระโขนง, ฉลาดเกมส์โกง, บุพเพสันนิวาส 2
ภาพยนตร์เหล่านี้ ล้วนทำรายได้ หลักร้อยล้านบาท
แล้วสูตรทำหนังร้อยล้านบาท ของ GDH คืออะไร ?
BrandCase จะลองวิเคราะห์ดู
ต้องเล่าย้อนไปสักนิดว่า ก่อนจะเป็น GDH 559 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า GDH อย่างในวันนี้ เมื่อก่อนคือ GTH
จุดเริ่มต้นคือ โปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง “อยากบอกรักครั้งแรก” ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวใหม่ในยุคนั้น เพราะต้องใช้กลุ่มเด็กเป็นนักแสดงนำ
ซึ่งรู้ไหมว่า ต่อมาทางทีมงาน ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรื่อง “แฟนฉัน”
เพราะเล็งเห็นว่า ชื่อภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน จะติดหูคนไทย และเป็นที่น่าจดจำได้ดี
แฟนฉัน เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ที่ได้ร่วมทุนกันสร้างระหว่าง 3 ค่าย
นั่นก็คือ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ (G), ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (T) และหับโห้หิ้น ฟิล์ม (H)
ภายใต้งบประมาณที่วางไว้คือ ไม่เกิน 15 ล้านบาท
และภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน ก็ได้ออกฉายจริงในปี 2546
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทำรายได้ในตอนนั้นไปราว ๆ 137 ล้านบาท
ทำให้ทั้ง 3 บริษัท รวมตัวกันตั้งบริษัทใหม่ ในปี 2546 โดยใช้ชื่อว่า จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือ GTH
แต่ต่อมา ในช่วงปลายปี 2558 มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในบริษัท
และบริษัทก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น GDH 599 หรือ GDH ซึ่งมาจากคำว่า Gross Domestic Happiness อย่างในวันนี้
แล้วมีอะไรบ้าง ที่ทางค่าย นำมาพัฒนาบท จนสามารถครองใจคนดูได้มาตลอด ลองมาวิเคราะห์กัน
ประการที่ 1: เลือกเรื่องราวที่สามารถเข้าถึง “ประสบการณ์ร่วม” ของกลุ่มคนดูในวงกว้าง
ถ้าลองย้อนไปดูรายละเอียดสำคัญที่ทำให้ แฟนฉัน ประสบความสำเร็จจนเป็นที่น่าจดจำ
คือกิมมิกที่เล่าว่า “เราทุกคน ล้วนเคยเป็นเด็กกันมาทั้งนั้น” และคงต้องเคยผ่านเรื่องราวความรักในวัยใสกันมา
นอกจากนั้น ยังมีฉากบ้าน ๆ ในต่างจังหวัด และการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคนั้น ประกอบกับเพลงเก่า ๆ ที่นำมาเล่นให้ฟังใหม่ ซึ่งสามารถดึงความรู้สึกร่วม ของผู้ชมวัยผู้ใหญ่ได้ดีมาก
เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ ก็กลายเป็นสูตรในการสร้างภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ มา เช่น
- เรื่อง ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น
ที่เล่าเรื่องความรักของหนุ่มสาวในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งพูดถึงคนที่กำลังมีความรักในทุกเพศทุกวัย
- เรื่อง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
ที่พูดถึงสาวพนักงานออฟฟิศ ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไปทำงานเป็นประจำ ซึ่งกำลังโสด เหงา และอยากมีความรัก
- เรื่อง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน
ภาพยนตร์ที่พาไปรู้จักกับเรื่องราวการสร้างแบรนด์ สร้างธุรกิจ ของคุณต๊อบ อิทธิพัทธ์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย ที่เป็นแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง
- เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง
ที่เอากิมมิกการ ลอกข้อสอบ ซึ่งเป็นประสบการณ์ร่วมของหลาย ๆ คน มาใส่ความท้าทายให้เป็นการลอกในการสอบระดับโลก
- เรื่อง ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน (Friend Zone)
ว่าด้วยเรื่องราวของคนสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ฝ่ายชายกลับอยากเป็นมากกว่าเพื่อน
ประการที่ 2: หยิบเอาเรื่องราวที่เป็นตำนาน หรือเรื่องที่คนรู้จักเป็นวงกว้าง มาตีความ และใส่ความน่าสนใจใหม่ ๆ เข้าไป เช่น
- เรื่อง พี่มาก…พระโขนง
ที่เอาตำนานไทยเรื่อง “แม่นาค” มาตีความใหม่ โดยเล่าในมุมของ “พี่มาก” แทน ซึ่งก็ถือว่าแหวกขนบหนังเก่าย้อนยุค อย่างแม่นาคพระโขนง
- เรื่อง ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค
ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ “คุณช่า” ในเพจเฟซบุ๊ก “บันทึกของตุ๊ด” มาสร้างเป็นบทภาพยนตร์
ประการที่ 3: คุณภาพของการเรียบเรียงบทภาพยนตร์ และทีมนักแสดงคุณภาพ
ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะบทภาพยนตร์ของ GDH หลาย ๆ เรื่อง ได้รับคำชมว่าเขียนบทดี เล่าเรื่องราวได้เป็นธรรมชาติ และไม่รู้สึกว่าดูถูกคนดู
ที่สำคัญคือ ทุกภาพยนตร์ ใช้นักแสดงนำที่มีชื่อเสียง การันตีคุณภาพการแสดง
อีกไฮไลต์สำคัญคือ เอาความตลก และความสนุกสนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยชอบอยู่แล้ว มาเป็นส่วนผสมหลักของภาพยนตร์
โดยเราจะเห็นได้จาก ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุด 5 อันดับแรกของ GTH และ GDH 559
หลาย ๆ เรื่องเป็นภาพยนตร์ ที่มีความตลก คอเมดี อารมณ์ดี เป็นส่วนผสม
- เรื่อง พี่มาก…พระโขนง ทำรายได้ 560 ล้านบาท
- เรื่อง บุพเพสันนิวาส 2 ทำรายได้ 368 ล้านบาท (ภาพยนตร์ยังอยู่ในโปรแกรมฉาย)
- เรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ทำรายได้ 331 ล้านบาท
- เรื่อง ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ทำรายได้ 286 ล้านบาท
- เรื่อง น้อง.พี่.ที่รัก ทำรายได้ 245 ล้านบาท
นอกจากนี้ ค่ายหนัง GDH ยังประสบความสำเร็จ จากการนำภาพยนตร์ไปฉายในต่างประเทศ
ซึ่งก็เป็นรายได้อีกทางหนึ่งของบริษัท อย่าง
- เรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ภาพยนตร์สยองขวัญ สามารถขายลิขสิทธิ์การฉายภาพยนตร์
ในต่างประเทศได้ถึง 30 ประเทศทั่วโลก
- เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ที่เข้าฉายในหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน โดยทำรายได้ไปไม่ต่ำกว่า 1,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไทย ที่มีรายได้สูงสุดจากการฉายในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ทุกเรื่องของ GTH และ GDH 559 ที่สามารถทำเงินได้มากเสมอไป
อย่างเรื่อง มหา’ลัย เหมืองแร่ ที่ใช้งบประมาณในการสร้างถึง 70 ล้านบาท
แต่ภาพยนตร์กลับทำรายได้เพียง 27 ล้านบาท
แม้ว่าหนังจะขาดทุน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กลายเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่า ที่คอหนังไทยต้องห้ามพลาด..
จะเห็นได้ว่า GDH ประกอบขึ้นมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ที่รวมกันแล้วทำให้ตัวภาพยนตร์มีคุณภาพ
จนตอนนี้ถ้าหากเราอยากจะดูภาพยนตร์ไทยดี ๆ สักเรื่อง ในโรงภาพยนตร์
ภาพยนตร์ที่ติดโลโกแบรนด์ “GDH 559”
ก็คงจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของใครหลายคน
แล้วยังมีประเด็นไหนอีกบ้าง ที่ทุกคนคิดว่าคือสูตรสำเร็จของการ ทำหนังร้อยล้าน ของ GDH
คอมเมนต์พูดคุยกันได้เลย..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.