
กรณีศึกษา ธุรกิจโรงแรม สำหรับคนตาย ในญี่ปุ่น
31 ส.ค. 2022
กรณีศึกษา ธุรกิจโรงแรม สำหรับคนตาย ในญี่ปุ่น | BrandCase
หากพูดถึง “โรงแรม” หลายคนอาจจะนึกถึง สถานที่พักตากอากาศสบาย ๆ
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสุดประทับใจ
หากพูดถึง “โรงแรม” หลายคนอาจจะนึกถึง สถานที่พักตากอากาศสบาย ๆ
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสุดประทับใจ
แต่วันนี้ BrandCase จะพาไปรู้จักกับหนึ่งในประเภทโรงแรม ที่เรียกได้ว่าแปลกสุดในโลก
ที่บอกแบบนั้นก็เพราะว่าโรงแรมแห่งนี้ ไม่ได้เป็นสถานที่สำหรับคนเป็น แต่มีไว้สำหรับ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
โรงแรมแห่งนี้ชื่อว่า “Lastel” ซึ่งอยู่ใน ประเทศญี่ปุ่น
แล้วทำไมญี่ปุ่น ถึงมีโรงแรมประเภทนี้ ?
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
เพราะมีประชากรอายุเกิน 65 ปี เกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
เพราะมีประชากรอายุเกิน 65 ปี เกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ปี 2000 อัตราการเสียชีวิต 8 คน ต่อประชากร 1,000 คน
ปี 2010 อัตราการเสียชีวิต 10 คน ต่อประชากร 1,000 คน
ปี 2020 อัตราการเสียชีวิต 11 คน ต่อประชากร 1,000 คน
ปี 2010 อัตราการเสียชีวิต 10 คน ต่อประชากร 1,000 คน
ปี 2020 อัตราการเสียชีวิต 11 คน ต่อประชากร 1,000 คน
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีประชากรราว 100 ล้านคน แปลว่าจะมีคนเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 1.1 ล้านคนต่อปี
ด้วยจำนวนผู้สูงอายุจำนวนมาก รวมกับอัตราการเสียชีวิตที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
ธุรกิจหลังความตาย จึงเติบโตขึ้นตาม
โดยหนึ่งในธุรกิจนั้นก็คือ Lastel โรงแรมสำหรับผู้ล่วงลับ
ธุรกิจหลังความตาย จึงเติบโตขึ้นตาม
โดยหนึ่งในธุรกิจนั้นก็คือ Lastel โรงแรมสำหรับผู้ล่วงลับ
Lastel มีจุดเริ่มต้นจากคุณฮิสะโยชิ เทระมูระ ผู้ประกอบธุรกิจรับจัดพิธีศพ ที่เข้าใจความลำบากของการหาสถานที่ สำหรับจัดพิธี
แล้วทำไมผู้เสียชีวิต ยังต้องนอนโรงแรม ?
ก็ต้องบอกว่าชาวญี่ปุ่น มีพิธีกรรมทางศาสนาที่ค่อนข้างซับซ้อน ตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิต
ส่วนใหญ่แล้วเมื่อทารกเกิดมาครบ 1 เดือน พ่อแม่จะพาทำพิธีสักการะเทพเจ้าแบบชินโต
เมื่อโตขึ้นชาวญี่ปุ่นหลายคน นิยมจัดงานแต่งงานในโบสถ์แบบคริสเตียน เพราะมีความเรียบเรียบง่ายกว่า การแต่งงานตามแบบชินโต หรือแบบดั้งเดิม ท่ีจะมีกฎระเบียบเคร่งครัดมาก
ซึ่งที่ญี่ปุ่น ผู้ที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนก็สามารถจัดพิธีแต่งงานแบบคริสเตียนได้
และเมื่อเสียชีวิตลงจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบพุทธ
แล้วประเพณีดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นอย่างไร ?
หลังจากมีคนเสียชีวิต ญาติจะเป็นผู้นำศพของผู้เสียชีวิตกลับมาไว้ที่บ้านเป็นเวลา 1 คืน
หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “โอะทสึยะ” เพื่อให้เหล่าญาติได้ใช้เวลาครั้งสุดท้ายกับผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะนำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “โอะทสึยะ” เพื่อให้เหล่าญาติได้ใช้เวลาครั้งสุดท้ายกับผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะนำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
แต่ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตที่วุ่นวาย จนไม่สะดวกเดินทางมาร่วมพิธี หรือบรรดาญาติพี่น้องที่ต่างแยกกันอยู่ จนส่งผลให้ขนาดครอบครัวเล็กลง
ไปจนถึงขนาดของบ้านและประเภทที่อยู่อาศัย ที่อาจจะไม่สอดคล้องต่อประเพณีดั้งเดิมอีกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตที่วุ่นวาย จนไม่สะดวกเดินทางมาร่วมพิธี หรือบรรดาญาติพี่น้องที่ต่างแยกกันอยู่ จนส่งผลให้ขนาดครอบครัวเล็กลง
ไปจนถึงขนาดของบ้านและประเภทที่อยู่อาศัย ที่อาจจะไม่สอดคล้องต่อประเพณีดั้งเดิมอีกต่อไป
จึงเป็นที่มาของไอเดีย “โรงแรมชั่วคราว” สำหรับผู้เสียชีวิตและญาติ
ที่โรงแรมจะคอยอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ห้องพักสำหรับประเพณีโอะทสึยะ, สถานที่จัดพิธีศพ ไปจนถึงรถรับส่งไปยังสถานที่เผา
ที่โรงแรมจะคอยอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ห้องพักสำหรับประเพณีโอะทสึยะ, สถานที่จัดพิธีศพ ไปจนถึงรถรับส่งไปยังสถานที่เผา
นอกจากนี้โรงแรม Lastel ยังมีบริการห้องเย็นชั่วคราวในกรณีที่เตาเผามีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในญี่ปุ่นปัจจุบัน ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เตาเผาในบางพื้นที่มีจำนวนเท่าเดิม จนในบางครั้ง อาจจะต้องรอเตาเผาตั้งแต่ 4 วันไปจนถึง 10 วัน
ในส่วนของค่าบริการสำหรับห้องเย็นนั้น จะเริ่มต้นที่ 3,200 บาทต่อคืน
โดยญาติเอง ก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน โรงแรม Lastel มีอยู่ 2 สาขา และตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮามา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว
โดยญาติเอง ก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน โรงแรม Lastel มีอยู่ 2 สาขา และตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮามา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว
จากเรื่องนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า ไม่ว่าไอเดียธุรกิจของเรา จะแปลกขนาดไหน
แต่หากมันสามารถรองรับความต้องการของตลาดได้ เราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
แต่หากมันสามารถรองรับความต้องการของตลาดได้ เราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
อย่างในกรณีของคุณฮิสะโยชิ เทระมูระ ที่เล็งเห็นว่าความลำบากของการหาสถานที่สำหรับจัดพิธีศพ
กำลังเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน
กำลังเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน
จึงได้ไอเดียธุรกิจโรงแรมผู้ล่วงลับอย่าง Lastel ที่หากใครมองเผิน ๆ จากภายนอก ก็คงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แปลก
แต่หากมาดูเนื้อธุรกิจและปัญหาที่ชาวญี่ปุ่นต้องเผชิญกันอยู่แล้ว
ก็ต้องบอกเลยว่า ตรงจุด และ ตอบโจทย์ มากเลยทีเดียว..
ก็ต้องบอกเลยว่า ตรงจุด และ ตอบโจทย์ มากเลยทีเดียว..