กรณีศึกษา สาวยาคูลท์ คนสำคัญ เบื้องหลังความสำเร็จ ของ ยาคูลท์

กรณีศึกษา สาวยาคูลท์ คนสำคัญ เบื้องหลังความสำเร็จ ของ ยาคูลท์

29 ส.ค. 2022
กรณีศึกษา สาวยาคูลท์ คนสำคัญ เบื้องหลังความสำเร็จ ของ ยาคูลท์ | BrandCase
ถ้าถามว่า นมเปรี้ยวขวดเล็ก ๆ ที่หลายคนคุ้นเคย คือแบรนด์อะไร ?
ยาคูลท์ น่าจะเป็นชื่อที่คนส่วนมากนึกถึง
รู้ไหมว่า ยาคูลท์ เริ่มวางขายในประเทศไทย อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี 2514 หรือเมื่อ 51 ปีที่แล้ว
จนวันนี้มีรายได้ หลักพันล้านบาท ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้ว อีกหนึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของยาคูลท์ก็คือ “สาวยาคูลท์”
แล้วสาวยาคูลท์ มีจุดเริ่มต้นมาได้อย่างไร
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของสาวยาคูลท์เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ ประเทศต้นกำเนิดของยาคูลท์
โดยในปี 1963 Yakult Honsha ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยาคูลท์ที่ญี่ปุ่น ได้เริ่มนำแนวคิดการขายตรงผ่านสาวยาคูลท์มาใช้
ต้องบอกว่าในตอนนั้น ยังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังมีความรู้สึกเชิงลบกับยาคูลท์
เนื่องจากรับรู้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีแบคทีเรียผสมอยู่ อย่างไรก็ตามแบคทีเรียที่อยู่ในยาคูลท์ที่ชื่อว่า แลกโตบาซิลลัส เป็นแบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ดังนั้น เพื่อให้ผู้คนเข้าใจกับสรรพคุณของยาคูลท์ได้มากขึ้น ทำให้ยาคูลท์มีการนำโมเดล สาวยาคูลท์มาใช้
ซึ่งไม่เพียงแต่มาขายสินค้าให้แก่ลูกค้าโดยตรง
แต่ยังสามารถอธิบายและสื่อสารสรรพคุณของยาคูลท์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้แก่ลูกค้าได้อีกด้วย
โดยยาคูลท์จะรับสาวยาคูลท์ ที่เป็นผู้หญิงในท้องถิ่น
ทั้งนี้เพื่อที่จะช่วยให้สามารถเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น สื่อสารกับคนในท้องถิ่นนั้นได้ดีและมีความเป็นกันเอง ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ยาคูลท์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
สำหรับในประเทศไทยนั้น ผู้ที่ริเริ่มนำโมเดลสาวยาคูลท์มาใช้แบบญี่ปุ่น คือ คุณประพันธ์ เหตระกูล
ซึ่งคุณประพันธ์ เหตระกูล ก็คือ บรรณาธิการบริหารคนแรกของ หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ด้วย
คุณประพันธ์ ได้เดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น และได้ลองดื่มยาคูลท์ ในช่วงที่ตนเองท้องเสียจากการรับประทานอาหาร จนอาการดีขึ้น
ทำให้ในเวลาต่อมาคุณประพันธ์ ชักชวนนายทุนของญี่ปุ่น ให้มาร่วมทำธุรกิจยาคูลท์ ในประเทศไทย
สำหรับสาวยาคูลท์ในประเทศไทยนั้น เครื่องแบบจะมีลักษณะเป็นเสื้อสีครีม เหมือนสีของยาคูลท์ ส่วนปกเสื้อ ขอบวงรอบแขนเสื้อ แถบกระดุม และกางเกง จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ซึ่งผู้ที่ออกแบบเอกลักษณ์ชุดของสาวยาคูลท์ ในประเทศไทย ก็คือภรรยาของคุณประพันธ์ นั่นเอง
แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่า การที่จะไปเป็นสาวยาคูลท์ ไม่ใช่ว่าแค่สมัครแล้วจะได้เป็นเลย เพราะต้องผ่านหลักสูตรการอบรมเป็นสาวยาคูลท์
โดยภายในหลักสูตรนั้น ผู้ที่สมัครเป็นสาวยาคูลท์ จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ
- กิริยามารยาท ในการพบปะกับลูกค้า
- การเรียนรู้ระบบเก็บเงิน และการทำบัญชีเบื้องต้น
- การจัดเก็บสินค้าไม่ให้เสียคุณภาพ
- ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของยาคูลท์ เพื่อให้สามารถตอบทุกคำถามของลูกค้าได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ
ซึ่งในมุมมองของคุณประพันธ์มองว่า สาวยาคูลท์ นั้น ไม่เพียงแต่เป็นกำลังหลัก ที่ช่วยให้ยาคูลท์สามารถเข้าถึงลูกค้า และสร้างรายได้ให้แก่บริษัทเท่านั้น
แต่อีกด้านหนึ่งโมเดลการขายแบบนี้ ยังช่วยสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ผู้หญิงหลายคนอีกด้วย
ผลประกอบการของ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2563 รายได้ 2,353 ล้านบาท กำไร 308 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 2,319 ล้านบาท กำไร 304 ล้านบาท
บริษัท ยาคูลท์ เซลส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด ทำหน้าที่ขายส่งผลิตภัณฑ์ของยาคูลท์
ปี 2563 รายได้ 4,680 ล้านบาท กำไร 921 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,479 ล้านบาท กำไร 703 ล้านบาท
แต่ต้องหมายเหตุด้วยว่า 2 บริษัทนี้ อาจมีรายการระหว่างกัน
ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ยาคูลท์เติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้
นอกจากคุณภาพของตัวสินค้าที่คับขวดแล้ว
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สาวยาคูลท์ ก็เป็นคนสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของยาคูลท์ ในวันนี้เช่นกัน..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.