รู้จัก Ricult สตาร์ตอัปการเกษตรระดับโลก ที่มีคนไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

รู้จัก Ricult สตาร์ตอัปการเกษตรระดับโลก ที่มีคนไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

24 มี.ค. 2022
รู้จัก Ricult สตาร์ตอัปการเกษตรระดับโลก ที่มีคนไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง | BrandCase
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในไทย มีแอปพลิเคชันที่ช่วยเหลือเกษตรกร โดยมีบริการให้ข้อมูลที่จำเป็นกับเกษตรกร ในการวางแผนเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ
เช่น ข้อมูลพยากรณ์อากาศและปริมาณน้ำฝนล่วงหน้าได้ 9 เดือน, คำแนะนำในการเพาะปลูก, ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมรายแปลง ทำให้รู้ว่าในแปลงปลูก มีการเจริญเติบโตงอกงามดี หรือมีปัญหาอะไรไหม
แอปพลิเคชันที่เรากำลังพูดถึง ชื่อว่า “ใบไม้ รีคัลท์”
โดยคนที่พัฒนาแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมา คือสตาร์ตอัปที่ชื่อ “Ricult”
ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัปแห่งนี้
คือ คุณอุกฤษ อุณหเลขกะ ชาวไทย และ คุณ Usman Javaid ชาวปากีสถาน
จุดเริ่มต้นคือ ทั้งคู่รู้จักกันในช่วงที่เรียนที่สถาบัน MIT ในสหรัฐอเมริกา
และมีไอเดียธุรกิจคล้าย ๆ กัน คืออยากจะสร้างสตาร์ตอัปด้านการเกษตร มาแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรในประเทศของตัวเอง
สุดท้ายไอเดียของคุณอุกฤษ และคุณ Usman ก็ออกมาเป็นแอปพลิเคชันที่ชื่อ “Ricult” ในปี 2016
โดยเริ่มเปิดให้ใช้ในปากีสถาน บ้านเกิดของคุณ Usman ก่อน ในเวลาต่อจากนั้น จึงเริ่มเปิดให้ใช้ในไทย
ซึ่งที่มาของชื่อนี้ ก็มาจากช่วงตรงกลางของคำว่า “agRICULTure” ที่แปลว่า เกษตรกรรม นั่นเอง..
Ricult สามารถระดมทุนในช่วงเริ่มแรก ได้มูลค่ากว่า 110 ล้านบาท จาก 2 นักลงทุนรายใหญ่นั่นก็คือ บริษัท Sojitz จากประเทศญี่ปุ่น และบริษัท elea Foundation จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากนั้นยังเคยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Bill & Melinda Gates Foundation มูลนิธิของมหาเศรษฐี บิลล์ เกตส์ และอดีตภรรยา อีกด้วย
อีกทั้งก่อนหน้านี้ Ricult ยังได้รับเงินลงทุนจากกลุ่มเงินทุนรายใหญ่ในไทยอย่าง Bualuang Ventures และ Krungsri Finnovate
โดย Ricult ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) รวมถึงใช้ AI และ Machine Learning มาช่วยประมวลผลและจัดการด้านการเกษตร เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการทำการเกษตร เพื่อช่วยให้การทำการเกษตรมีประสิทธิภาพ และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้ในที่สุด
และนี่คือตัวอย่างฟังก์ชันที่น่าสนใจในแอปพลิเคชันรีคัลท์
1. แสดงสภาพอากาศในพื้นที่
โดยจะมีรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย เช่น อุณหภูมิ, โอกาสเกิดฝน, เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก, ความเร็วลม
ซึ่งเกษตรกรสามารถเข้าไปวาดแปลงเกษตรของตัวเองได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเช็กว่าสภาพอากาศในแต่ละแปลงเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นข้อดีของคนที่มีแปลงเกษตรในหลายพื้นที่
2. พยากรณ์ฝน 9 เดือน
Ricult จะใช้เทคโนโลยีและสถิติในการพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้าไปอีก 9 เดือน เพื่อให้เป็นแนวทางในการวางแผนการเพาะปลูก
3. แผนที่เมฆฝน
ในแผนที่จะแสดงให้เห็นถึงภาพเมฆฝนจริง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ ที่เคลื่อนผ่านแปลงเกษตรของเรา ซึ่งจะช่วยให้ เกษตรกรสามารถวางแผนในการจัดการกับแปลงเกษตรของตัวเองได้ เช่น การหว่านปุ๋ย, การพ่นยา
4. ภาพถ่ายดาวเทียม
เป็นธรรมดาที่การเพาะปลูก จำเป็นต้องเข้าไปดูแลด้วยตัวเอง แต่แผนที่ดาวเทียมจะทำให้เราเห็นสภาพการเจริญเติบโตของพืชคร่าว ๆ ผ่านสีที่แสดงผล ว่าในส่วนไหนของแปลงมีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าส่วนอื่น หรือพื้นที่ไหนกำลังมีปัญหา
5. เช็กราคาผลผลิต
เราสามารถเช็กราคาผลผลิตในแต่ละวันได้เลยว่า ในแต่ละโรงงานที่ทาง Ricult ขอข้อมูลเอาไว้ มีการรับซื้อผลผลิตกันเท่าไรบ้าง โดยเราสามารถเลือกชนิดของพืชที่เราปลูกเอาไว้ได้เลย เช่น ข้าวโพด, ข้าว, มันสำปะหลัง, อ้อย, ยาง
6. ขอสินเชื่อเพื่อการเกษตร
ส่วนใหญ่แล้วในการทำการเกษตรมักจะใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ทำให้ทาง Ricult ได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ซึ่งเป็นธนาคารต่าง ๆ คอยให้คำปรึกษาเรื่องการขอสินเชื่อ
โดยสามารถกรอกข้อมูลไว้ในแอปพลิเคชัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของทางธนาคารติดต่อกลับ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้ว Ricult จะมีรายได้มาจากตรงไหน ?
ธุรกิจของ Ricult มีรายได้มาจากสองส่วนก็คือ
- Ricult บริการระบบ Big Data ด้านการเกษตรในการติดตามและพยากรณ์ผลผลิต รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงของสินค้าเกษตรทั้งประเทศ ให้กับธุรกิจเกษตรกรและสถาบันการเงินโดยใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากมิติต่าง ๆ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลอากาศ และชุดดิน
- Ricult อำนวยความสะดวกเชื่อมต่อเกษตรกรในระบบโดยตรงกับบริการต่าง ๆ เช่น สถาบันการเงิน บริษัทปุ๋ย หรือผู้รับซื้อผลผลิต โดยมีรายได้ในส่วนของค่าคอมมิชชันเข้ามา
โดยล่าสุด Ricult ก็ได้มีการเซ็นสัญญากับโรงงานน้ำตาล และบริษัทปุ๋ยอันดับ 1 ของเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือบริษัท Quang Ngai Sugar Company และบริษัท Japan Vietnam Fertilizer Company
นอกจากนั้น Ricult ก็ยังมีโมเดลเป็นตัวกลางซื้อขายสินค้า ให้เกษตรกรมาวางจำหน่าย คือ เมื่อมีการซื้อสินค้าผ่านระบบ Ricult ทางบริษัทก็จะได้รับค่าธรรมเนียม
คุณอุกฤษ ยังบอกด้วยว่า Ricult ตั้งเป้าว่าอยากเป็น “Super Application ของภาคการเกษตร” คือเกษตรกรที่เข้ามาใช้แอปพลิเคชันนี้ สามารถทำได้ทั้ง ซื้อปุ๋ย ขายของ หรือเข้าถึงสินเชื่อ แบบครบจบในที่เดียว
จะเห็นได้ว่า Ricult ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูง มาช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร และสามารถเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร โรงงานแปรรูป ร้านอาหาร และสถาบันการเงิน ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ ได้ครบจบในแอปพลิเคชันเดียว
และที่น่าสนใจก็คือ ประเทศที่กำลังโดดเด่นเรื่องการเกษตรและอาหาร ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย
ยังมีเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และประเทศในแถบอาเซียนอีกมากมาย ซึ่งก็แปลว่า Ricult จะมีโอกาสในการขยายกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
และตอนนี้ก็มีเกษตรกรดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปใช้แล้ว มากกว่า 5 แสนคน
ก็น่าติดตามเหมือนกันว่า สตาร์ตอัปด้านการเกษตร ที่มีคนไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งรายนี้
จะเติบโตได้ดีมากแค่ไหน ในอนาคต..
References:
- https://techsauce.co/news/ricult-startup-agtitech-to-vietnam-partner-take-ai-digital-solution
- https://techsauce.co/news/ricult-raise-pre-a-110-million-baht
- https://www.smeone.info/posts/view/4911
- https://www.facebook.com/RicultThailand/
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.