
สรุปงบ MR. D.I.Y. ในไทย ไตรมาส 3 กำไร 605 ล้าน +79% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
14 พ.ย. 2025
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน) ของ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เจ้าของ MR. D.I.Y. ในไทย
-รายได้ 4,960 ล้านบาท +25% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
-กำไร 605 ล้านบาท +79% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
โดยสาเหตุที่รายได้และกำไรเติบโต บริษัทบอกเหตุผลว่า
มาจากการขยายสาขาโดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพสูง ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
มาจากการขยายสาขาโดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพสูง ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
และได้รับประโยชน์จากขนาดธุรกิจที่ขยายใหญ่ขึ้น การบริหารสัดส่วนสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย
โดยถ้าดูภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรกปีนี้
รายได้ 14,344 ล้านบาท กำไร 1,781 ล้านบาท
รายได้ 14,344 ล้านบาท กำไร 1,781 ล้านบาท
ซึ่งถ้าเอามาเทียบเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา
ปี 2565 รายได้ 9,941 ล้านบาท กำไร 1,051 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 12,832 ล้านบาท กำไร 1,381 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 16,214 ล้านบาท กำไร 1,780 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2568 รายได้ 14,344 ล้านบาท กำไร 1,781 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 9,941 ล้านบาท กำไร 1,051 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 12,832 ล้านบาท กำไร 1,381 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 16,214 ล้านบาท กำไร 1,780 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2568 รายได้ 14,344 ล้านบาท กำไร 1,781 ล้านบาท
โดยโมเดลรายได้จากการขายตามประเภทสินค้า ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568
-เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่ง 37.2%
-ฮาร์ดแวร์ 16.9%
-เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา 8.3%
-เครื่องใช้ไฟฟ้า 9.0%
-ของเล่น 5.7%
-หมวดอื่น ๆ 22.8%
-เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่ง 37.2%
-ฮาร์ดแวร์ 16.9%
-เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา 8.3%
-เครื่องใช้ไฟฟ้า 9.0%
-ของเล่น 5.7%
-หมวดอื่น ๆ 22.8%
ตัวเลข Same Store Sales Growth (SSSG) หรือการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม
สำหรับ MR. D.I.Y. บอกว่านิยามสาขาเดิม ว่าต้องเปิดมาแล้วอย่างน้อย 24 เดือน
สำหรับ MR. D.I.Y. บอกว่านิยามสาขาเดิม ว่าต้องเปิดมาแล้วอย่างน้อย 24 เดือน
-ไตรมาส 2 ปี 2567 = 4.1%
-ไตรมาส 3 ปี 2567 = 4.4%
-ไตรมาส 4 ปี 2567 = 1.6%
-ไตรมาส 1 ปี 2568 = 0.4%
-ไตรมาส 2 ปี 2568 = 4.0%
-ไตรมาส 3 ปี 2568 = 2.5%
-ไตรมาส 3 ปี 2567 = 4.4%
-ไตรมาส 4 ปี 2567 = 1.6%
-ไตรมาส 1 ปี 2568 = 0.4%
-ไตรมาส 2 ปี 2568 = 4.0%
-ไตรมาส 3 ปี 2568 = 2.5%
นอกจากนั้นยังมีตัวเลขสำคัญ ๆ อีก เช่น
- จำนวนธุรกรรม ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น จาก 70.9 ล้านรายการ เป็น 87.1 ล้านรายการ เติบโต 22.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
- มูลค่าเฉลี่ยต่อธุรกรรมช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น จาก 161.5 บาท เป็น 164.5 บาท เติบโต 1.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
จำนวนสาขาของบริษัท
-ณ สิ้นปี 2565 = 557 สาขา
-ณ สิ้นปี 2566 = 741 สาขา
-ณ สิ้นปี 2567 = 932 สาขา
-ณ 30 กันยายน 2568 = 1,072 สาขา (หลัก ๆ 73% เป็นสาขานอกศูนย์การค้า)
-ณ สิ้นปี 2565 = 557 สาขา
-ณ สิ้นปี 2566 = 741 สาขา
-ณ สิ้นปี 2567 = 932 สาขา
-ณ 30 กันยายน 2568 = 1,072 สาขา (หลัก ๆ 73% เป็นสาขานอกศูนย์การค้า)
สำหรับอนาคตข้างหน้า ในปี 2569 และ ปี 2570 ทาง MR. D.I.Y. บอกในรายงานว่า
บริษัทวางแผนจะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 210 สาขาต่อปี
และจะมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้นมากกว่า 1,500 สาขา ภายในสิ้นปี 2570
และจะมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้นมากกว่า 1,500 สาขา ภายในสิ้นปี 2570