ทำธุรกิจ ระวังโดนหลอก ต้องดูความน่าเชื่อถือ ของลูกค้า ให้ดี ๆ บทเรียนจากซีรีส์ Typhoon Family

ทำธุรกิจ ระวังโดนหลอก ต้องดูความน่าเชื่อถือ ของลูกค้า ให้ดี ๆ บทเรียนจากซีรีส์ Typhoon Family

10 พ.ย. 2025
**หมายเหตุสำคัญ : โพสต์นี้มีการเปิดเนื้อหาสำคัญบางส่วนของซีรีส์ “Typhoon Family เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ”
-Typhoon Family เป็นซีรีส์ที่กำลังออนแอร์ตอนนี้ใน Netflix เล่าเรื่องราวของการทำธุรกิจในยุควิกฤติหนี้ IMF ของเกาหลีใต้ เทียบง่าย ๆ ก็คือช่วงที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในไทย ปี พ.ศ. 2540
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือการสอดแทรกบทเรียนและแง่มุมที่น่าสนใจในการทำธุรกิจไว้ในหลายมุม
หนึ่งมุมน่าสนใจในตอนต้น ๆ เรื่องคือการดูให้ดี ๆ ว่า ลูกค้าของเรา หรือคู่ค้าที่สั่งซื้อของจากเรา มีความน่าเชื่อถือในตอนนั้นขนาดไหน
BrandCase สรุปบทเรียนธุรกิจ มุมนี้ จากบางช่วงบางตอนของเรื่องนี้มาให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
แบ็กกราวนด์ของเรื่อง Typhoon Family คืออยู่ในช่วง วิกฤติการณ์ทางการเงินในเอเชีย ปี ค.ศ. 1997 หรือก็คือปี พ.ศ. 2540 ที่เริ่มต้นจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ในประเทศไทย
ตอนนั้นเกาหลีใต้ เป็นอีกประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จนต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เหตุการณ์นี้ถูกชาวเกาหลีใต้ เรียกว่า “วันอัปยศแห่งชาติ”
เพราะฉะนั้นบรรยากาศของสภาพเศรษฐกิจและการทำธุรกิจในซีรีส์เรื่องนี้ จะนำเสนอการชิงเหลี่ยมกัน เพื่อเอาตัวรอดในวิกฤติเศรษฐกิจ
ในช่วงต้นของซีรีส์ Typhoon Family มีการยกเหตุการณ์การ ซื้อ-ขาย สินค้าระหว่างกัน ที่มีตัวละครเป็น 3 บริษัทหลัก ๆ คือ
1. บริษัทไต้ฝุ่นการค้า
ทำธุรกิจ Trading หรือก็คือ ซื้อมาขายไป โดยในเรื่องเป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพื่อมาขายต่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ให้กับบริษัทในเกาหลีใต้
2. แทบังเท็กซ์ไทล์
เป็นบริษัทที่เป็นลูกค้าของ ไต้ฝุ่นการค้า ที่จะสั่งซื้อผ้าดิบจาก ไต้ฝุ่นการค้า เพื่อนำไปใช้แปรรูปแล้วเอาไปขายต่ออีกที
3. บริษัทขายผ้าดิบรายหนึ่งในอิตาลี
เป็นบริษัทที่ ไต้ฝุ่นการค้า จะทำดีลสั่งซื้อผ้าดิบ เพื่อมาขายต่อให้กับ แทบังเท็กซ์ไทล์
ทีนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องคือ
- แทบังเท็กซ์ไทล์ ต้องการสั่งซื้อผ้าดิบจากไต้ฝุ่นการค้า ในปริมาณที่เยอะมาก
- บริษัทไต้ฝุ่นการค้า ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อสั่งซื้อผ้าดิบจากคู่ค้าในอิตาลี
- คู่ค้าที่เป็นบริษัทขายผ้าดิบในอิตาลี บอกเงื่อนไขว่า จะขายวัตถุดิบให้ ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าก่อน
ทีนี้ปัญหาของไต้ฝุ่นการค้าคือ ด้วยวิกฤติเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ตอนนั้น ทำให้สภาพคล่องที่หมุนเวียนในบริษัทเริ่มตึง
เงินสดเริ่มจะไม่พอจ่ายค่าเงินเดือนพนักงาน จากการที่ลูกค้ารายอื่น ๆ เริ่มเบี้ยวจ่ายหนี้ คู่ค้าบางเจ้าขอเลื่อนจ่ายหนี้
สุดท้ายทางบริษัทไต้ฝุ่นการค้า ก็ตัดสินใจว่าต้องปิดดีลกับ แทบังเท็กซ์ไทล์ ให้ได้ เพื่อให้ได้กำไรมาหล่อเลี้ยงบริษัทต่อไป
โดยกู้เงินบางส่วนจากธนาคารและใช้เงินบางส่วนของเจ้าของบริษัท จ่ายเงินล่วงหน้าให้กับคู่ค้าในอิตาลี เพื่อให้ได้ผ้าดิบมา
ทีนี้พอถึงวันส่งมอบสินค้า ไต้ฝุ่นการค้า ก็จ้างรถบรรทุก ขนผ้าดิบไปรับสินค้าจากท่าเรือ เพื่อไปส่งมอบให้แทบังเท็กซ์ไทล์
แต่ก็จะมีกิมมิกที่น่าสงสัย คือเมื่อคนจากไต้ฝุ่นการค้า ไปถึงสำนักงานของแทบังเท็กซ์ไทล์
ทำให้พอจะเดาได้ว่า จริง ๆ แล้ว แทบังเท็กซ์ไทล์ น่าจะกำลังล้มละลาย และไม่ได้ดำเนินกิจการอยู่แล้ว ณ ตอนนั้น
โดยสังเกตได้จากความไม่ปกติในสำนักงาน เช่น ถอดสายโทรศัพท์ สายแฟกซ์ ไว้ เพราะไม่อยากรับสายเจ้าหนี้ เอกสารในสำนักงาน ที่โล่งกว่าปกติ
รวมถึงมีใบปลิวประท้วงของพนักงาน ที่มาเรียกร้องให้จ่ายค่าจ้างที่ค้างไว้
ทำให้พอจะคิดได้ว่า สินค้าที่สั่งจากไต้ฝุ่นการค้า แทบังเท็กซ์ไทล์ ก็น่าจะจ่ายไม่ไหว เจ้าของบริษัทน่าจะอยากเอาสินค้าที่ได้มา ไปขายต่อ เพื่อเอาเงินไปหมุนต่อ หรือหอบเงินหนี ไม่จ่ายหนี้
สุดท้ายทางฝั่ง ไต้ฝุ่นการค้า ก็ไหวตัวทัน และระงับไม่ให้รถบรรทุกเข้าไปส่งมอบสินค้าทัน รวมถึงทำสัญญายกเลิกดีลนี้ทัน
ซึ่งต้องหมายเหตุว่า จริง ๆ แล้วในเรื่องก็จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารทางบัญชีอีกค่อนข้างเยอะ
เช่น การเซ็นชื่อและประทับตราใน Invoice (ใบแจ้งหนี้) และการประทับตราในเอกสารการซื้อขายอื่น ๆ
แต่เราจะขอละไว้ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของประเด็นนี้ง่าย ๆ
จากกิมมิกธุรกิจตรงนี้ ทำให้เห็นว่า การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของลูกค้า เป็นอีกเรื่องสำคัญสำหรับคนทำธุรกิจ
โดยทั่วไปแล้ว หลายธุรกิจเวลาตกลงจะส่งมอบสินค้าหรือบริการ จะไม่ได้เก็บเงินสดทันที แต่จะให้เครดิตเทอม หรือระยะเวลาชำระหนี้กับลูกค้าในการจ่าย เช่น 15 วัน หรือ 30 วัน
หรือบางบริษัท อาจมีฝ่าย Credit Analysis วิเคราะห์เครดิตลูกค้าโดยเฉพาะ ว่าจะให้ระยะเวลาชำระนานแค่ไหน
หรือถ้าลูกค้าหรือคู่ค้า มีความเสี่ยงผิดชำระมาก ควรให้ชำระก่อนล่วงหน้าบางส่วน หรือเต็มจำนวนเลยหรือไม่
และยิ่งถ้าเป็นเคสพิเศษ หรือช่วงเวลาไม่ปกติ อย่างเช่นในซีรีส์เรื่อง Typhoon Family ที่เล่าเคสการทำธุรกิจในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ก็ยิ่งต้องทำการบ้านดี ๆ
เพราะไม่แน่ลูกค้าของเรา หรือคู่ค้าของเรา อาจจะตั้งใจหลอกให้เราขายสินค้าหรือบริการให้ แล้วไม่จ่ายเงิน
หรือถึงเวลาแล้ว ลูกค้าไม่มีเงินชำระหนี้ตามที่ตกลงกันไว้ ก็เป็นได้
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.