การปรับตัวของ กาแฟมังกรบิน กรณีศึกษาน่าสนใจ ของแบรนด์ที่อยู่ได้นาน กว่า 70 ปี

- ในรูปคือรูปของรถเข็นขายกาแฟ ที่มีป้าย “กาแฟมังกรบิน” ติดอยู่ ใครที่อายุ 20-30 ปีขึ้นไป น่าจะคุ้นเคยกับป้ายนี้ดี

เพราะมักติดอยู่ตามหน้าร้านหรือรถเข็นขายกาแฟ ที่เข็นมาขายแถวบ้าน 

ที่น่าสนใจคือ ทุกวันนี้ชื่อของมังกรบินนั้น ไม่ได้มีอยู่แค่ตามรถเข็น หรือร้านกาแฟแบบสมัยก่อนแล้ว 

แต่มีการปรับตัว และยกระดับเป็นร้านกาแฟขึ้นห้าง  

เรื่องราวของ กาแฟมังกรบิน น่าสนใจอย่างไร ? 

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 

- ปัจจุบัน กาแฟมังกรบิน อยู่ในการดูแลของทายาทรุ่นที่ 3 คือ คุณหนุ่ย-เอนก จิตตขจรเกียรติ

จุดเริ่มต้นของ กาแฟมังกรบิน เริ่มต้นมาจากรุ่นอากง นั่นก็คือ คุณขี่ลิ้ม แซ่จิว

โดยเริ่มจากเปิดร้านผลิตและขายกาแฟกับเพื่อน ในปี พ.ศ. 2490 หรือเมื่อ 78 ปีก่อน ที่ย่านสี่พระยา 

และแยกมาเปิดแบรนด์ของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า กาแฟมังกรบิน 

ต่อมาในรุ่นทายาทรุ่นที่ 2 ซึ่งก็คือคุณพ่อของคุณหนุ่ย ท่านก็ได้ยกเลิกกิจการนี้ไป และส่งต่อฐานลูกค้าให้กับน้องชายและเพื่อน 

เมื่อมาถึงรุ่นของคุณหนุ่ย ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ก็เหมือนกับต้องมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง 

โดยในช่วงแรกคุณหนุ่ยต้องมาเริ่มหาลูกค้าด้วยตนเองใหม่ทั้งหมด 

ใช้กลยุทธ์เน้นส่งถึงร้านโดยตรง ซึ่งเป็นจุดขายที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นในเวลานั้น 

พอฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คุณหนุ่ยจึงเริ่มวางระบบ การส่งกาแฟเป็น 3 เส้นทางหลักคือ 

เส้นนนทบุรี-ปทุมธานี, สุพรรณบุรี และสายตะวันออก 

เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดส่ง และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น 

นอกจากเส้นทางการจัดส่งแล้ว มังกรบินยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านเอเจนต์และร้านขายส่งหรือยี่ปั๊วทั่วประเทศ 

พร้อมทั้งอัดกลยุทธ์การตลาดด้วยโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อให้ลูกค้ากล้าทดลองและเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าประจำ

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์การแจกป้ายกาแฟมังกรบินฟรี ให้กับลูกค้าที่มาซื้อ

นี่จึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมเราถึงเห็นป้ายร้านอยู่เต็มไปหมดทุกที่ 

จนหลายคนคิดว่ามังกรบินเปิดขายแฟรนไชส์ แต่ความจริงแล้ว เป็นการแจกป้ายฟรี ให้ลูกค้านำไปติดเพื่อนำเสนอเมนูร้านตัวเอง 

แล้วตอนนี้ธุรกิจกาแฟมังกรบินเป็นอย่างไรบ้าง ? 

ปัจจุบัน กาแฟมังกรบินนั้น ยังคงขายกาแฟเป็นหลัก และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ เช่น 

- ผงกาแฟโบราณรสดั้งเดิม (ใช้ชงกาแฟโบราณและโอเลี้ยง)

- ผงกาแฟในรูปแบบกระป๋องคลาสสิก

- หัวเชื้อกาแฟสูตรพรีเมียม

- ชาผงโบราณ 

แต่นอกจากคุณหนุ่ยแล้ว ยังมีคุณฝน-กันยารัตน์ จิตตขจรเกียรติ ที่เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ที่ทำให้แบรนด์กาแฟมังกรบินนั้น เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น  

โดยมีการเปิดตัวร้านกาแฟ Mungkornbin GUNYA ร้านกาแฟขึ้นห้าง ที่ตอนนี้มีทั้งหมด 5 สาขา คือ สามย่านมิตรทาวน์, สยามสแควร์วัน, เมเจอร์ รัชโยธิน, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และซีคอน บางแค 

ซึ่งคุณฝน ก็ยังเน้นการใช้กาแฟสูตรดั้งเดิมตั้งแต่สมัยรุ่นอากง ที่เปิดร้านที่ย่านสี่พระยา  

และยังมีการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เช่น ชาอัสสัม, ชาเขียว, ท็อปปิงต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้ามาในเมนูให้ตรงกับความต้องการในตลาดมากขึ้นด้วย 

จุดเด่นของกาแฟมังกรบินคือ มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า “โรงงานกาแฟจิตต์เกษม” ซึ่งหาผู้ผลิตกาแฟโบราณแบบเดียวกันได้ยากในปัจจุบัน 

ทำให้กาแฟของมังกรบิน มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่หาจากแบรนด์อื่นไม่ได้ และเป็นอีกหนึ่งจุดขาย ที่ทำให้กาแฟมังกรบินยืนระยะได้มาจนถึงปัจจุบัน

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า กาแฟโบราณนั้นแตกต่างจากกาแฟปกติอย่างไร ? 

คุณหนุ่ยได้เล่าว่า 

กาแฟโบราณ คือกาแฟที่ผ่านกรรมวิธีการคั่วเมล็ดกาแฟรวมกับธัญพืชและน้ำตาล โดยเมล็ดกาแฟที่ได้จะเป็นแบบคั่วเข้มและจะถูกนำไปบดเพื่อสะดวกต่อการชง 

ส่วนวิธีชงที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ ชงผ่านถุงชงเพื่อแยกกากกาแฟออก หากเติมน้ำตาลและดื่มแบบเย็นก็จะเป็นโอเลี้ยง หรือถ้าใส่นมเข้าไปก็จะเป็นกาแฟโบราณเย็นที่เราเห็นกันทั่วไปนั่นเอง

References

- https://www.mungkornbin.coffee/

- https://www.wongnai.com/chains/mungkornbin

- https://www.facebook.com/photo/?fbid=804648447952789&set=a.558110282606608

- http://mkbcoffee.com/contact/

- https://www.facebook.com/mungkornbingunya/