
“Paint the Town RED” จากอาหารเสริมสู่ Movement: การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยศิลปะ แฟชั่น และตัวตน
11 ก.ย. 2025
ในยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่สินค้า แต่กำลังมองหา "ตัวตน" ที่สะท้อนผ่านสิ่งที่เลือกใช้ “BioActive+” แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพรีเมียมจากนิวซีแลนด์ จึงลุกขึ้นมาพลิกโฉมตลาดด้วยแคมเปญสุดร้อนแรง “Paint the Town RED” ที่ไม่ได้ขายเพียงคุณประโยชน์ แต่กำลังสร้าง Movement ให้ผู้คนเชื่อมโยงกับแบรนด์ผ่านประสบการณ์ที่จับต้องได้จริง
หัวใจของแคมเปญคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “BioActive+ Concentrated Liquid Asta Drink” ซึ่งใช้ประโยชน์จากสีแดงเข้มตามธรรมชาติของส่วนประกอบหลักอย่าง Astaxanthin ในการเป็นตัวแทนของพลังและความมั่นใจ แคมเปญนี้ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาหารเสริมจากสิ่งจำเป็นที่ "กินเพื่อดี" ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ "กล้าเป็นตัวเอง" อย่างเต็มที่
BioActive+ เดินเกมการตลาดแบบครบวงจร (360° Campaign) อย่างชาญฉลาด ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก:
1. RED ALERT: สร้างปรากฏการณ์สีแดงทั่วกรุง
BioActive+ เริ่มต้นด้วยการสร้าง Mass Awareness อย่างยิ่งใหญ่ ใช้สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home หรือ OOH) ทั่วกรุงเทพฯ เป็นผืนผ้าใบในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ตั้งแต่ป้าย LED บนตึกใบหยกที่กลายเป็นแลนด์มาร์กสีแดง ไปจนถึงบิลบอร์ดและสื่อตามสถานีรถไฟฟ้า กลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการโฆษณา แต่เป็นการสร้างสัญลักษณ์ที่ฝังลึกในใจผู้คน เป็นเหมือนการประกาศว่า “พลังสีแดง” กำลังจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งในเมืองนี้
2. RED ALIVE: เปลี่ยนการตลาดให้เป็นงานศิลป์
เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมได้จริง แบรนด์ได้เนรมิตพื้นที่ RED AREA Pop-up Booth ที่สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ให้เป็นโซนกิจกรรมที่รวมทุกองค์ประกอบของแบรนด์ไว้ในที่เดียว ทั้งศิลปะ (Live Art จากศิลปินชื่อดัง ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ), แฟชั่น (Fashion Troop ที่เดินสร้างสีสันทั่วเมือง) และสุขภาพ (Slurpy Bar 4 สูตร) ทำให้แบรนด์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายสินค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนเมือง และกลายเป็น Movement ที่น่าจับตามอง
3. RED ADVANTAGE: ขับเคลื่อนยอดขายด้วยพลังโปรโมชัน
แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งโปรโมชันในรูปแบบ Lucky Box, กิจกรรม Live Streaming ที่แจกรางวัลมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท, การทำ Co-Promotion กับศูนย์การค้า EM District และที่โดดเด่นคือการร่วมมือกับแบรนด์สกินแคร์ระดับโลกอย่าง Kiehl’s โดยใช้กลยุทธ์ Brand Synergy ผ่านการ Cross-sampling และ Live Co-activation ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ดูแลตัวเองแบบครบวงจรทั้งจากภายในและภายนอก
มุมมองจากผู้ก่อตั้ง: สุขภาพคือเรื่องของ Passion และ Purpose
ดร.วาสนา อินทะแสง ผู้ก่อตั้ง BioActive+ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “อาหารเสริมในวันนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคภูมิใจที่จะพกไว้ในมือ แบรนด์ของเราจึงเลือกสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีตั้งแต่ภายใน และต่อยอดสู่ภายนอกผ่านดีไซน์ ไลฟ์สไตล์ และศิลปะ” “Paint the Town RED” จึงไม่ใช่แค่แคมเปญการตลาด แต่เป็นการ “Rebrand” วงการอาหารเสริมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง BioActive+ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่ได้เริ่มต้นจากแค่การตลาด แต่มาจาก "พลังของแบรนด์" ที่พร้อมจะเปลี่ยนเมืองให้เป็นสีแดงด้วย Passion และ Purpose
ในยุคที่การบริโภคคือการเลือกสิ่งที่ตรงกับ “ตัวตนที่อยากเป็น” BioActive+ ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ตัวตนนั้นไม่จำเป็นต้องจืดชืดอีกต่อไป แล้วคุณล่ะ...พร้อมที่จะปล่อยพลังในแบบที่เป็นคุณหรือยัง?
#BioActiveplus #BioActiveTH
#BioActivePaintTheTownRED
#BioActiveREDchallenge
หัวใจของแคมเปญคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “BioActive+ Concentrated Liquid Asta Drink” ซึ่งใช้ประโยชน์จากสีแดงเข้มตามธรรมชาติของส่วนประกอบหลักอย่าง Astaxanthin ในการเป็นตัวแทนของพลังและความมั่นใจ แคมเปญนี้ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาหารเสริมจากสิ่งจำเป็นที่ "กินเพื่อดี" ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ "กล้าเป็นตัวเอง" อย่างเต็มที่
BioActive+ เดินเกมการตลาดแบบครบวงจร (360° Campaign) อย่างชาญฉลาด ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก:
1. RED ALERT: สร้างปรากฏการณ์สีแดงทั่วกรุง
BioActive+ เริ่มต้นด้วยการสร้าง Mass Awareness อย่างยิ่งใหญ่ ใช้สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home หรือ OOH) ทั่วกรุงเทพฯ เป็นผืนผ้าใบในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ตั้งแต่ป้าย LED บนตึกใบหยกที่กลายเป็นแลนด์มาร์กสีแดง ไปจนถึงบิลบอร์ดและสื่อตามสถานีรถไฟฟ้า กลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการโฆษณา แต่เป็นการสร้างสัญลักษณ์ที่ฝังลึกในใจผู้คน เป็นเหมือนการประกาศว่า “พลังสีแดง” กำลังจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งในเมืองนี้
2. RED ALIVE: เปลี่ยนการตลาดให้เป็นงานศิลป์
เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมได้จริง แบรนด์ได้เนรมิตพื้นที่ RED AREA Pop-up Booth ที่สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ให้เป็นโซนกิจกรรมที่รวมทุกองค์ประกอบของแบรนด์ไว้ในที่เดียว ทั้งศิลปะ (Live Art จากศิลปินชื่อดัง ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ), แฟชั่น (Fashion Troop ที่เดินสร้างสีสันทั่วเมือง) และสุขภาพ (Slurpy Bar 4 สูตร) ทำให้แบรนด์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายสินค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนเมือง และกลายเป็น Movement ที่น่าจับตามอง
3. RED ADVANTAGE: ขับเคลื่อนยอดขายด้วยพลังโปรโมชัน
แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งโปรโมชันในรูปแบบ Lucky Box, กิจกรรม Live Streaming ที่แจกรางวัลมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท, การทำ Co-Promotion กับศูนย์การค้า EM District และที่โดดเด่นคือการร่วมมือกับแบรนด์สกินแคร์ระดับโลกอย่าง Kiehl’s โดยใช้กลยุทธ์ Brand Synergy ผ่านการ Cross-sampling และ Live Co-activation ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ดูแลตัวเองแบบครบวงจรทั้งจากภายในและภายนอก
มุมมองจากผู้ก่อตั้ง: สุขภาพคือเรื่องของ Passion และ Purpose
ดร.วาสนา อินทะแสง ผู้ก่อตั้ง BioActive+ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “อาหารเสริมในวันนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคภูมิใจที่จะพกไว้ในมือ แบรนด์ของเราจึงเลือกสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีตั้งแต่ภายใน และต่อยอดสู่ภายนอกผ่านดีไซน์ ไลฟ์สไตล์ และศิลปะ” “Paint the Town RED” จึงไม่ใช่แค่แคมเปญการตลาด แต่เป็นการ “Rebrand” วงการอาหารเสริมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง BioActive+ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่ได้เริ่มต้นจากแค่การตลาด แต่มาจาก "พลังของแบรนด์" ที่พร้อมจะเปลี่ยนเมืองให้เป็นสีแดงด้วย Passion และ Purpose
ในยุคที่การบริโภคคือการเลือกสิ่งที่ตรงกับ “ตัวตนที่อยากเป็น” BioActive+ ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ตัวตนนั้นไม่จำเป็นต้องจืดชืดอีกต่อไป แล้วคุณล่ะ...พร้อมที่จะปล่อยพลังในแบบที่เป็นคุณหรือยัง?
#BioActiveplus #BioActiveTH
#BioActivePaintTheTownRED
#BioActiveREDchallenge