กลยุทธ์ที่กลุ่มเซ็นทรัล ใช้ผลักดัน​ “สินค้าภูมิปัญญาไทย” ให้ไปไกลกว่าของดีประจำท้องถิ่น​

กลยุทธ์ที่กลุ่มเซ็นทรัล ใช้ผลักดัน​ “สินค้าภูมิปัญญาไทย” ให้ไปไกลกว่าของดีประจำท้องถิ่น​

4 เม.ย. 2024
BrandCase x กลุ่มเซ็นทรัล
ถ้ามีคนบอกว่า ผลงานของคุณจะมีโอกาสไปวางขายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ
และห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ในยุโรปเครือกลุ่มเซ็นทรัล คุณจะเชื่อไหม?
นี่ไม่ใช่ไอเดียขายฝัน แต่เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นจริงแล้วกับ 10 ชุมชนที่ผลิตผ้าขาวม้า
เพราะล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ ได้ขานรับนโยบายจากภาครัฐ ที่มุ่งผลักดัน ต่อยอดสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านศูนย์การค้าชั้นนำต่าง ๆ สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
ด้วยการเปิดโครงการ “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” สินค้า อาทิ ผ้าขาวม้าไทย เครื่องจักสานกระจูด และผ้าคราม มาทำตลาดและวางจำหน่ายในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล ในหลายภูมิภาค
โครงการนี้น่าสนใจอย่างไร ?
ที่สำคัญจะช่วยผลักดัน ผ้าขาวม้า อีกหนึ่ง Soft Power ไทยให้โกอินเตอร์ได้อย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
เบื้องหลังการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ นอกจากจะต้องตั้งต้นจาก Product หรือสินค้าที่ดีแล้ว ช่องทางการขายที่ทรงพลังก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเติบโต​
ถึงแม้ปัจจุบันโลกออนไลน์ จะเข้ามาทลายกำแพงของการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย​
เพราะไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ แบรนด์โลคัลหรือโกลบอล ก็สามารถวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และเข้าถึงผู้คนนับล้านได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
แต่อย่าลืมว่า สุดท้ายแล้ว ช่องทางการขายในโลกออฟไลน์ ก็ยังเป็นอีกหน้าด่านสำคัญ ในการเข้าถึงลูกค้า ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
ดังนั้น การที่กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ ขานรับนโยบายจากภาครัฐ ด้วยการมอบช่องทางการขายอันทรงพลัง จึงเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่าย ๆ สำหรับสินค้าท้องถิ่นของไทย
โดยผ้าขาวม้า ที่​จะนำมาวางจำหน่าย เป็นผ้าขาวม้าที่กลุ่มเซ็นทรัลรับซื้อมาจาก 10 ชุมชนทั่วประเทศ ได้แก่
- ชุมชน กัลยาผ้าทอ จ.สุพรรณบุรี
- อิมปานิ จ.ราชบุรี
- นครราชสีมา โอทอป จ.นครราชสีมา
- วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านดอนพะทาย จ.นครพนม
- วิสาหกิจชุมชนผ้าทอไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน จ.ราชบุรี
- วิสาหกิจชุมชนทอผ้าพุเตย จ.เพชรบูรณ์
- ผ้าขาวม้าจำปีสิรินธร จ.ลพบุรี
- วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง
- ชุมชนผ้าย้อมครามบ้านกุดจิก จ.สกลนคร
- ผู้ประกอบการ OTOP สมุทรปราการ
โดยหลังจากกลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือ ได้คิกออฟโครงการและเปิดบูท “ฮักไทย เสน่ห์วิถีไทยสไตล์ใหม่ Thainess Station สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน” ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่
ก็ได้รับเกียรติจากคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ สวมเสื้อลายผ้าขาวม้า มาเยี่ยมชมบูท


ขณะที่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างให้ความสนใจและจับจ่ายซื้อสินค้าท้องถิ่น ที่มีการต่อยอดให้มีความร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าขาวม้า และผลิตภัณฑ์จากกระจูด ที่มาจากฝีมือของชาวบ้าน เช่น หมวก กระเป๋า ตุ๊กตาช้าง เสื้อเชิ้ต กางเกง
ซึ่งมีการดีไซน์ให้มีความร่วมสมัย สามารถนำมาใช้ได้ในทุกวัน สามารถใช้เป็นของที่ระลึก และเป็นของใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
​ทั้งนี้ ต้องบอกว่าโครงการนี้เปิดตัวมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลสำคัญของไทย อย่างวันสงกรานต์
ซึ่งนอกจากหลายคนจะกำลังมองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ยังหลั่งไหลเข้ามาเพื่อสัมผัสเสน่ห์ของวันสงกรานต์ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดัน Soft Power ไทยอย่างผ้าขาวม้าไปในตัว
นอกจากโครงการจะมาถูกเวลา ยังได้อานิสงส์จากช่องทางการขายที่ทรงพลัง เพราะการที่สินค้าไทยจะได้มาวางขายในศูนย์การค้าใหญ่ ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแบกต้นทุนในเรื่องค่าเช่าที่ แถมยังต้องอาศัยการทำแบรนด์ดิ้ง และการทำการตลาดที่แข็งแรง​
แต่ครั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลเล่นใหญ่ เปิดบ้านต้อนรับ ให้สินค้าภูมิปัญญาไทย จากชุมชน เข้ามาวางจำหน่ายในศูนย์การค้าของเครือเซ็นทรัลทั่วทุกภูมิภาค กว่า 50 สาขาทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 39 แห่ง
- โรบินสันไลฟ์สไตล์ 3 แห่ง
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 6 แห่ง
- ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 2 แห่ง
โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหลังจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีกในอนาคต
นอกจากนี้ ยังนำสินค้าไปวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าในยุโรปของเครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ ห้างเซลฟริดเจส (Selfridges) ประเทศอังกฤษ, รีนาเชนเต (Rinascente) ประเทศอิตาลี และ คาเดเว (KaDeWe) ประเทศเยอรมนี โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
ซึ่งต้องบอกว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก และเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต่างใฝ่ฝัน เพราะเท่ากับว่า สินค้าท้องถิ่นของไทย จะไม่ได้สามารถตีตลาดแค่ในประเทศ หรือรอให้นักท่องเที่ยวมาชื่นชมภูมิปัญญาของชาวไทย
แต่สินค้าท้องถิ่นของไทยจะได้ไปเปิดเกมรุก เพื่อมัดใจลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่มเต็มร้อยเพื่อสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย แต่ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล
โดยมีเป้าหมายชัดเจน คือ ต้องการพัฒนาสินค้าท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น และรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน ต่อยอดเพิ่มมูลค่าของสินค้ามากขึ้น และมอบช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้สินค้าไทยสามารถเติบโตแข่งขันในตลาดสากลได้ พร้อมผลักดัน ส่งเสริมให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ในการส่งต่อองค์ความรู้ และ พัฒนาสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งหมดนี้ มาจากความเชื่อที่ว่า สินค้าไทยก็มีความโดดเด่น ไม่แพ้ใครในโลก เพียงแต่ต้องการโอกาสและช่องทางที่จะผลักดัน Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จัก
โดยกลุ่มเซ็นทรัล กำลังทำหน้าที่เป็นเหมือนสปอตไลต์ ที่ช่วยฉายแสงให้สินค้าภูมิปัญญาไทยเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ
ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : Central Group หรือ centralgroup.com/thainess-station
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.