“คาราบาว” แบรนด์ไทยสู่เวทีโลก ผู้สนับสนุนฟุตบอล EFL Cup นานที่สุดในประวัติศาสตร์

“คาราบาว” แบรนด์ไทยสู่เวทีโลก ผู้สนับสนุนฟุตบอล EFL Cup นานที่สุดในประวัติศาสตร์

23 ก.พ. 2024
คาราบาว x BrandCase
ใครจะไปเชื่อว่า แบรนด์ Energy Drink ของคนไทยอย่าง “คาราบาว”
จะเป็นผู้สนับสนุนหลักที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ
รายการฟุตบอลระดับโลกอย่าง “EFL Cup” ที่เต็มไปด้วยทีมฟุตบอลระดับโลกมาลงแข่งขัน
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือ นับตั้งแต่คาราบาวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน EFL Cup เมื่อปี 2017
“EFL Cup” ก็เปลี่ยนชื่อจากที่ใช้ “League Cup” มาเป็น “Carabao Cup” มา 7 ปีแล้ว
และกำลังจะครบ 10 ปี ในซีซัน 2026-2027 ที่จะถึงนี้
ซึ่งทำให้คาราบาวกลายเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในโลก
ที่สนับสนุนรายการ EFL Cup ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยที่ผ่านมา มีรายงานว่า ในการเป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ 3 ปี
คาราบาวต้องจ่ายเงินให้กับ EFL เป็นมูลค่า 18 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว 800 ล้านบาท
ซึ่งถ้าคำนวณคร่าว ๆ ระยะเวลา 10 ปีที่คาราบาวเป็นสปอนเซอร์ ให้ EFL Cup
ก็เท่ากับว่าคาราบาวใช้เงินไปแล้วราว ๆ 60 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือ 2,700 ล้านบาทเลยทีเดียว..
ทีนี้ถ้ามองในมุมธุรกิจ ทำไมคาราบาวต้องยอมจ่ายเงินขนาดนี้ ?
แล้วสิ่งที่ได้มา คุ้มค่าแค่ไหน ?
BrandCase จะมาสรุปเรื่องนี้ให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
การทำการตลาดผ่านกีฬาแบบที่คาราบาวเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ให้
EFL Cup จะเรียกว่าการทำ “Sport Marketing”
คอนเซปต์ของการทำการตลาดแบบนี้ จะเน้นไปที่การสร้าง Brand Awareness
และ Brand Value กับฐานแฟนคลับของทีมกีฬา
ยกตัวอย่างเช่น การไปเป็นสปอนเซอร์บนเสื้อแข่งของทีมฟุตบอล
เมื่อทีมฟุตบอลลงแข่งขันหรือปรากฏตัวตามหน้าสื่อ
ก็จะทำให้ฐานแฟนคลับมีโอกาสเห็นโลโก้หรือสินค้าของแบรนด์ไปด้วย
แน่นอนว่า ยิ่งฐานแฟนคลับของทีมมีมากเท่าไร ก็มีโอกาสที่
แบรนด์จะได้สร้างการรับรู้มากขึ้นตามไปด้วย นั่นเอง
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ คาราบาวตัดสินใจทุ่มงบเป็นพันล้านบาท
เพื่อเป็นสปอนเซอร์ให้ EFL Cup
คำถามต่อมา คือ ทำไมต้องเป็นรายการ EFL Cup ?
ต้องบอกก่อนว่า EFL Cup เป็นรายการฟุตบอลแบบแพ้คัดออก
โดยจะนำทีมจากพรีเมียร์ลีก จำนวน 20 ทีม
มาเจอกับทีมฟุตบอลจาก ลีกแชมเปียนชิป, ลีกวัน และลีกทู
(ลีกรองของอังกฤษ) อีก 72 ทีม มาจับคู่แข่งกัน
สำหรับคอบอลอาจจะรู้ดีว่า ที่ผ่านมา “EFL Cup” มักจะถูกมองว่าเป็นรายการเล็ก ๆ
ที่หลายสโมสร ไม่ได้ให้ความสำคัญ
จึงมักคัดทีมสำรองมาลงสนาม เรียกความฟิต หรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์
จนได้รับฉายาว่าเป็น “มิกกี้เมาส์ คัพ”
แต่หลังจากทีมที่ได้แชมป์ Carabao Cup ได้รับสิทธิ์ไปเตะฟุตบอลยุโรป “UEFA Europa Conference League” ที่เป็นอีกรายการใหญ่ไม่แพ้ UEFA Champion League และ UEFA Europa League เลย
ทั้งหมดนี้ ทำให้ภาพจำของ EFL Cup เปลี่ยนไป กลายเป็นอีกรายการ
ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก จนมียอดคนดูพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ปี 2017 นัดชิงชนะเลิศ EFL Cup ระหว่าง Manchester United
กับ Southampton FC มียอดคนดู 526,000 คน
- ปี 2018 นัดชิงชนะเลิศ EFL Cup ระหว่าง Manchester City
กับ Arsenal มียอดคนดู 789,000 คน
- ปี 2023 นัดชิงชนะเลิศ EFL Cup ระหว่าง Manchester United
กับ Newcastle มียอดคนดู 4,260,000 คน
ซึ่งจำนวนผู้ชมดังกล่าว เฉพาะแค่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น
ยังไม่รวมการขายลิขสิทธิ์ไปฉายอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ด้วยตัวเลขผู้ชมที่ล้นหลามขนาดนี้ แน่นอนว่าคาราบาว
ในฐานะสปอนเซอร์หลักของรายการ จะได้ประโยชน์แบบเต็ม ๆ
เพราะเท่ากับว่า คาราบาวสามารถพาแบรนด์ไปอยู่ในสายตาของผู้ชมนับล้านคนได้แบบไม่ต้องเปลืองแรง
แถมยังสร้างการรับรู้และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในระดับโลก
ความสำเร็จของคาราบาวครั้งนี้ ยังทำให้แบรนด์ระดับโลก ที่เป็นสปอนเซอร์ให้ EFL Cup อยู่แล้ว
อย่าง Sky Bet ,Puma และ Football Manager ตัดสินใจขยายสัญญาออกไปอีก
ขณะที่แบรนด์อื่น ๆ อย่าง Kellogg’s กับ แบรนด์วิสกี้ชื่อดังเจ้าหนึ่ง
ก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ
เลยตัดสินใจเข้ามาสนับสนุน EFL Cup เพิ่มเติมอีกด้วย
และนอกจากจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาชาวโลกแล้ว
คาราบาวก็ยังเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนคนไทย และวงการฟุตบอลไทยไปพร้อม ๆ กัน
โดยที่ผ่านมา คาราบาวก็ได้จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ Carabao 7-a-Side Cup 2023
ที่เป็นรายการที่นักฟุตบอลเดินสายหลาย ๆ คนใฝ่ฝันจะได้แชมป์มาครองกันสักครั้งในชีวิต
เพราะทีมที่ไปถึงตำแหน่งแชมป์ของรายการนี้ จะไม่ใช่ว่า
ได้แค่เงินรางวัลเหมือนฟุตบอลเดินสายทั่ว ๆ ไป
แต่ทีมที่ได้แชมป์จะได้ไปสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก
บินลัดฟ้าไปประเทศอังกฤษ
เพื่อชมศึกคาราบาว คัพ ฤดูกาล 2023/2024 รอบชิงชนะเลิศ
แบบติดขอบสนาม แบบทั้งทีม 16 คน
ไม่ว่าจะเป็นนักเตะตัวจริง หรือเป็นตัวสำรอง
ไปจนถึงผู้จัดการทีม ก็มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ระดับโลกได้ทั้งหมด
แถมรายการนี้ยังมีเงินรางวัลสูงถึง 100,000 บาท
ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ สำหรับรายการฟุตบอลเดินสาย
ก็ยิ่งทำให้รายการดังกล่าว มีเสน่ห์ในแบบที่ถ้าคนจัดไม่ใช่
คาราบาว จะไม่มีทางทำได้เลยอีกด้วย..
สุดท้ายนี้ 25 กุมภาพันธ์นี้ อย่าลืมดูบอล คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2023/2024 ทั่วประเทศ
ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี สองทีมฟุตบอลขวัญใจคนไทย
ถ้าใครอยากลุ้นแบบติดขอบจอ ก็สามารถมาร่วมเชียร์บอลให้สุดเสียงพร้อมกันได้ที่ Carabao Tawandang Festival พระราม 3 หรือรับชมสดผ่านไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ TikTok : @Thairath_sport
โดยการถ่ายทอดสดจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 21.30 น.
ซึ่งในช่วง Pre-match จะมีสัมภาษณ์พิเศษจากคุณเสถียร ส่งตรงจากเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ
งานนี้ ทางคาราบาวยังแง้มมาอีกด้วยว่าระหว่างการแข่งขัน ห้ามกะพริบตาเด็ดขาด
เพราะคาราบาวได้เตรียมเซอร์ไพรส์สุดพิเศษเอาไว้ให้คนดูด้วย..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.