เส้นทาง กระทิง พูนผล จากเด็กกำแพงเพชร สู่เจ้าพ่อ สตาร์ตอัปเมืองไทย

เส้นทาง กระทิง พูนผล จากเด็กกำแพงเพชร สู่เจ้าพ่อ สตาร์ตอัปเมืองไทย

27 ม.ค. 2024
เส้นทาง กระทิง พูนผล จากเด็กกำแพงเพชร สู่เจ้าพ่อ สตาร์ตอัปเมืองไทย | BrandCase
ชนะเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิก, ได้เข้าเรียน MBA ที่ Stanford มหาวิทยาลัยเดียวกับผู้ก่อตั้ง Google, Facebook และ Netflix
จบมาทำงานตำแหน่ง Manager ระดับ Global Lead ที่ Google
ก่อนออกมาเป็นเจ้าพ่อสตาร์ตอัปในไทย และตั้งกองทุน 500 TukTuks ที่ลงทุนในสตาร์ตอัปไปแล้วกว่า 500 ล้านบาท ใน 80 บริษัท ทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบันกลายเป็นผู้บริหารระดับสูงของ 1 ใน 3 ธนาคารที่ใหญ่สุดในประเทศ..
ถ้าบอกว่านี่คือประวัติของเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่เกิดมาในครอบครัวฐานะไม่ดี พ่อแม่ทำงานเป็นข้าราชการธรรมดา ๆ ชีวิตไม่ได้มีแต้มต่ออะไร คุณจะเชื่อไหม ?
แต่นี่คือเส้นทางจริง ๆ ชีวิตจริง ๆ ของคนที่ชื่อว่า กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล
เรื่องราวของเขา เป็นมาอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
คุณเรืองโรจน์ พูนผล หรือคุณกระทิง เกิดที่จังหวัดกำแพงเพชร
มีคุณพ่อและคุณแม่ ทำงานรับราชการ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี
ช่วงวัยเด็กคุณกระทิงเรียนไม่ค่อยดี สอบได้เกือบที่โหล่มาตลอด จนกระทั่งได้เจอ 2 จุดเปลี่ยนสำคัญ
จุดเปลี่ยนครั้งแรก เกิดขึ้นตอนขึ้นชั้น ป.3
มีคุณครูเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวของคุณกระทิง นั่นคือ ความสามารถในการกระดกลิ้น การอ่านเสียงภาษาไทยที่ชัดเจน
คุณครูท่านนั้น จึงได้ฝึกให้คุณกระทิงอ่านร้อยแก้ว และพาไปประกวดแข่งขัน จนสามารถคว้ารางวัลที่ 2 ของจังหวัดมาได้
เหตุการณ์นี้ทำให้คุณกระทิงมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และรู้สึกว่าถ้าเรามุ่งมั่น ตั้งใจในเรื่องใดก็ตาม เราจะสามารถไปได้ไกลกว่าที่คิดไว้เยอะ
จุดเปลี่ยนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นตอน ป.6
คุณกระทิงได้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์กับคุณครูท่านหนึ่ง ที่ไม่ได้สอนวิทยาศาสตร์แค่บนกระดาน
แต่อธิบายให้เห็นจากปรากฏการณ์รอบ ๆ ตัว จนทำให้คุณกระทิงรู้สึกหลงใหลในศาสตร์นี้
ยิ่งไปกว่านั้น คุณครูท่านนี้ยังบอกกับคุณกระทิงอีกว่า “คนที่เก่งที่สุด ต้องได้เหรียญทองโอลิมปิกวิชาการ และครูเชื่อว่า เรืองโรจน์ (คุณกระทิง) ทำได้”
ทำให้คุณกระทิง จริงจังกับการเรียนมากขึ้น และมีความฝันอยากจะคว้าเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิกมาให้ได้
พอขึ้นมัธยม คุณกระทิงก็ตื่นตี 4 ทุกวันเพื่ออ่านหนังสือ เป็นเวลา 6 ปีเต็ม และได้แข่งขันโอลิมปิกวิชาการ จนคว้าเหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิก และเหรียญทองแดงคณิตศาสตร์โอลิมปิกมาได้ ตามที่ตั้งใจ
ด้วยความที่ถนัดวิชาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ พอจบ ม.6 คุณกระทิง เลยตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แต่หลังจากเรียนไปได้สักพัก คุณกระทิงก็ค้นพบว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองไม่ได้ชอบวิศวกรรมขนาดนั้น แต่ชอบการตลาดมากกว่า
จึงไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มทำงานในฝ่ายผลิตแชมพูที่บริษัท P&G อยู่ 7 ปี
จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้อ่านบทความสัมภาษณ์ของคุณ Steve Jobs ที่ชวน CEO ของ Pepsi มาทำงานที่ Apple ด้วยประโยคที่ว่า
“คุณอยากขายน้ำหวานไปตลอดชีวิต หรือคุณคิดอยากจะเปลี่ยนโลกล่ะ”
นั่นทำให้คุณกระทิงฉุกคิดขึ้นมาว่า แล้วเราล่ะ อยากจะขายแชมพูไปตลอดชีวิต หรืออยากจะเปลี่ยนโลก
จึงเกิดเป็นความฝันใหม่ของคุณกระทิงคือ การได้เข้าทำงานในองค์กรที่จะเปลี่ยนโลก
และเพื่อเป็นก้าวแรกสู่ความฝัน คุณกระทิงตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท MBA ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นการพาตัวเองเข้าไปในสังคมที่เหนือกว่าเดิม
ที่สแตนฟอร์ด คุณกระทิงมีโอกาสได้เรียนกับบุคคลระดับโลกมากมาย เช่น คุณ Eric Schmidt (CEO ของ Google ในสมัยนั้น), คุณ Warren Buffett (ตำนานนักลงทุนอันดับ 1 ของโลก)
หรือบางครั้งก็ได้เจอกับคุณ Mark Zuckerberg (ซีอีโอของ Facebook) ที่เรียนอยู่ในคลาสเดียวกัน
เหล่านี้เอง ที่ยกระดับตัวคุณกระทิงอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 ปีที่เรียนอยู่
และทำให้ได้รับข้อเสนอทันทีหลังเรียนจบ จาก Hedge Fund ยักษ์ใหญ่มากมาย ที่ให้ค่าตอบแทนสูง หลายล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม คุณกระทิงก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นทั้งหมด เพราะมองว่า จุดประสงค์ที่เรามาเรียนไม่ใช่ต้องการแค่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว
แต่เราต้องการที่จะเปลี่ยนโลก คุณกระทิงจึงตัดสินใจที่จะสมัครงาน กับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่เขาเชื่อว่ามีนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลกได้
และบริษัทนั้นก็คือ Google ..
หลังจากสอบสัมภาษณ์ไป 9 รอบ ในระยะเวลา 6 เดือน สุดท้ายคุณกระทิงก็ได้เซ็นสัญญาทำงานกับบริษัท Google ในตำแหน่ง Quantitative Marketing Manager
โดยมีหน้าที่ดูแลการตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะญี่ปุ่น
ก่อนที่จะขยับมาเป็น Product Marketing Manager (Global Lead) ทำโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Google Earth และ Google Moon
หลังจากทำงานมา 8 ปีที่ Google คุณกระทิงก็ได้กลับมาเมืองไทย และได้ค้นพบกับความฝันครั้งใหม่ ที่อยากสร้างระบบนิเวศของสตาร์ตอัปในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง
ผ่านการนำความรู้ และเครือข่ายที่ได้จากการทำงานที่ Silicon Valley และที่อื่น ๆ มาใช้ที่นี่ เขาจึงเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย เพื่อเติมเต็มความฝัน
ปี 2555 ก่อตั้ง Dtac Accelerate โครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการสตาร์ตอัปในไทย และ Disrupt University โรงเรียนสอนผู้ประกอบการสตาร์ตอัป
ปี 2557 ก่อตั้งกองทุน 500 TukTuks ที่ลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัป ระดับท็อป ของเมืองไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เช่น Finnomena, StockRadars, fastwork, SkillLane
ปัจจุบัน คุณกระทิง ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
โดยอยู่เบื้องหลังแอปที่เราใช้กันทุกวันอย่าง K PLUS ที่มีผู้ใช้งาน 21.7 ล้านราย, แช็ตบอตเรียกเก็บเงินใน Line อย่างขุนทอง
และล่าสุดได้เป็นกรรมการรับเชิญ ในรายการ Shark Tank Thailand Season 4
ถึงตรงนี้ คงต้องยอมรับว่า มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดร่วม และเป็นหนึ่งใน Key สำคัญที่ผลักดันให้คุณกระทิงก้าวขึ้นมาได้ถึงจุด ๆ นี้ได้
นั่นก็คือ “ความกล้าที่จะฝันใหญ่” ตลอดมา
ตั้งแต่ เหรียญทองโอลิมปิกวิชาการ, เข้าเรียน MBA ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, ทำงานที่ Google ไปจนถึงที่อยากสร้างระบบนิเวศของสตาร์ตอัปในประเทศไทย ให้แข็งแกร่ง
ก็ไม่แน่ว่าในสักวันหนึ่ง หากเราลองกล้าที่จะฝันใหญ่ มันอาจทำให้เราใหญ่ได้เกินฝัน แบบคุณกระทิงก็ได้..
References
-รายการเจาะใจ : กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล - เจ้าพ่อสตาร์ทอัพ [7 ก.ค 61] จากช่อง JSL Global Media
-กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล Startup Godfather เมืองไทย : PERSPECTIVE [10 ม.ค. 64] จากช่อง JSL Global Media
-เรืองโรจน์ พูนผล Group ChairmanKBTG สิ่งที่ไม่มี ถ้ามันต้องมีผมจะสร้างมันขึ้นมา - Business Class EP5 จากช่อง THE PEOPLE CO Official
-https://workpointtoday.com/kbank-kbtg-krating-poonpol/
-https://www.skilllane.com/instructors/krating
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.