ประวัติศาสตร์ สายฉีดก้น คนไทยขาดไม่ได้ แต่ไม่ค่อยมีใช้ ในอเมริกา-ยุโรป

ประวัติศาสตร์ สายฉีดก้น คนไทยขาดไม่ได้ แต่ไม่ค่อยมีใช้ ในอเมริกา-ยุโรป

21 ส.ค. 2023
ประวัติศาสตร์ สายฉีดก้น คนไทยขาดไม่ได้ แต่ไม่ค่อยมีใช้ ในอเมริกา-ยุโรป | BrandCase
สายฉีดชำระ หรือ สายฉีดก้น คือไอเทมจำเป็นสำหรับคนไทย ห้องน้ำไหนที่ไม่มี ชีวิตจะลำบากขึ้นหลายเท่า
แต่รู้หรือไม่ ว่าสายฉีดก้นที่คนไทยขาดไม่ได้
ในหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก เขาไม่มีใช้กันเป็นเรื่องปกติ
ซึ่งประเทศที่ไม่ค่อยมีใช้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นประเทศที่ระบบสุขอนามัยไม่ดี
เพราะประเทศโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกที่เจริญมาก ๆ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ เขาไม่ใช้สายฉีดก้นกันเป็นเรื่องปกติ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? และประวัติศาสตร์สายฉีดก้น เป็นมาอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ต้องบอกว่า นวัตกรรมสายฉีดก้น เป็นของชาวเอเชีย
แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องจริง ๆ คือการคิดค้นห้องน้ำเพื่อปลดทุกข์ ที่เริ่มมาจากอารยธรรมตะวันตกในยุคโรมัน
มนุษย์เรา เริ่มรู้จักการสร้างห้องน้ำสำหรับใช้ทำธุระหนัก ธุระเบา มาตั้งแต่ยุคโรมัน เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อนแล้ว
ห้องน้ำในยุคโรมัน ก็จะเป็นเพียงห้องกว้าง ๆ และต้องใช้ร่วมกัน
ซึ่งในห้องน้ำก็จะมีที่นั่งยาว ๆ แล้วทำหลุมไว้ เพื่อให้คนสามารถไปปลดทุกข์ได้
โดยใต้ที่นั่งปลดทุกข์ ก็จะมีระบบน้ำไหลเพื่อทำความสะอาด
ซึ่งถ้าเทียบกับปัจจุบัน นั่นก็คือระบบชักโครก
ต่อมาระบบน้ำไหลของยุคโรมัน ก็ได้พัฒนามาเป็นต้นแบบของระบบท่อน้ำในเมืองที่ใช้กันในปัจจุบัน
ต่อมาในช่วงปี 1710 ซึ่งตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยาของประเทศไทย
ในยุคนั้นเป็นยุคที่ชาวตะวันตก ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย
ซึ่งชาวฝรั่งเศสก็ได้คิดค้นอ่างชำระล้างก้น หรือเรียกว่า Bidet
โดยลักษณะของ Bidet ก็คือจะเป็นอ่างล้างก้น ซึ่งจะมีลักษณะเป็นอ่างที่สามารถรองน้ำได้
ซึ่งถ้าหากทำธุระหนักบนโถส้วมเสร็จ ก็จะย้ายไปนั่งแช่บน Bidet เพื่อทำความสะอาดหลังปลดทุกข์
ต่อมาปี 1957 ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้คิดวิธีการนำโถส้วมเข้ามารวมกับ Bidet ได้สำเร็จ
โดยเรียกว่า Washlet จึงทำให้ผู้คนสามารถชำระล้างทำความสะอาดหลังปลดทุกข์ได้ทันที
และ Washlet นี่เองที่เป็นต้นแบบให้กับญี่ปุ่น สามารถประดิษฐ์ส้วมอัตโนมัติได้
โดยส้วมอัตโนมัติ จะทำงานด้วยการกดปุ่มรีโมต เพื่อให้ท่อพ่นน้ำ
ฉีดขึ้นมาจากด้านล่าง เพื่อทำความสะอาดหลังจากปลดทุกข์เสร็จได้เลย
โดยแบรนด์แรก ที่คิดค้นระบบส้วมอัตโนมัติ ก็คือแบรนด์ TOTO ของญี่ปุ่น
ส่วนทางด้านสหรัฐอเมริกา..
ในช่วงแรก วิธีการทำความสะอาดของพวกเขาคือ การเช็ดด้วย ซังข้าวโพด
จนกระทั่งในปี 1890 คุณ Edward Irvin และคุณ Clarence Scott สองพี่น้องเจ้าของโรงงานผลิตกระดาษ Scott Paper
ได้คิดค้นกระดาษทิชชูแบบม้วน มีรอยปรุออกมา และสามารถฉีกได้ง่าย
ซึ่งกระดาษแบบนี้ เหมาะกับการเป็นกระดาษชำระ ที่สามารถใช้แล้วทิ้งได้เลย
จึงทำให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ จากเดิมที่นิยมใช้ซังข้าวโพด หรือกระดาษเป็นแผ่นใหญ่ ๆ ทำความสะอาดซ้ำไปซ้ำมา
ก็หันมาใช้กระดาษชำระ แบบใช้แล้วทิ้งไป อย่างกระดาษทิชชูแทน
ซึ่งวัฒนธรรมการใช้กระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาด ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งสหรัฐอเมริกาและอีกหลาย ๆ ประเทศในยุโรป ในเวลาต่อมา
เมื่อชาติตะวันตก คิดค้นกระดาษทิชชู สำหรับทำความสะอาด
ในอีกซีกโลกหนึ่ง คือชาติตะวันออก ก็ได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ที่เรียกกันว่า “Shattaf”
ซึ่งลักษณะของ Shattaf ก็คล้าย ๆ กับสายฉีดก้นที่เราเห็นกันจนทุกวันนี้
โดย Shattaf ได้ถูกคิดค้นขึ้น โดยชาวมุสลิมในแถบประเทศอินเดีย
เพราะความสะอาด ถือเป็นสิ่งที่ชาวอิสลามยึดถือมาก ๆ และน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญในการชำระล้างร่างกาย
ซึ่งในเวลาต่อมาอุปกรณ์ดังกล่าว ก็ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ในประเทศเขตร้อน
อย่าง อิหร่าน อียิปต์ บราซิล มาจนถึงประเทศอาเซียน อย่างมาเลเซีย และประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย ก็ต้องบอกว่า
นวัตกรรมสายฉีดก้นที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คนไทยได้พัฒนาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 50 กว่าปีก่อนแล้ว
โดยจากข้อมูลพบว่า สายฉีดก้นแบรนด์แรกของไทย คือแบรนด์ HANG ที่เปิดตัวเมื่อปี 2515
ถูกออกแบบ และพัฒนาโดย คุณณรงค์ กูลมงคลรัตน์ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ณรงค์ โลหะกิจ
(ปัจจุบัน คือ บริษัท เอ็น แอล ซานิทารีฟิตติ้งส์ จำกัด)
ซึ่งก็ต้องบอกว่า แบรนด์ HANG ได้เป็นผู้บุกเบิกตลาดสายฉีดก้น เป็นเจ้าแรก ๆ ในโลก และทำให้ครัวเรือนในไทย ได้เริ่มรู้จักสายฉีดชำระมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งแบรนด์สายฉีดก้นในประเทศไทย นอกจากแบรนด์ HANG แล้ว
ก็ยังมีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามาตีตลาดอีกมากมาย อย่าง KOHLER, American Standard, COTTO, SANWA
จนปัจจุบัน เรียกได้ว่าสายฉีดก้น กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับบ้านเรือนคนไทยส่วนใหญ่
ที่ไหนไม่มี บางคนจะถึงขนาดไม่อยากทำธุระหนักกันเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้ ก็พอจะสังเกตได้ว่า ประเทศที่นิยมใช้สายฉีดก้น ก็มักจะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อน
อย่างเช่น ประเทศไทย หรือจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และเวียดนาม
แต่หลายคนที่ไปเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และประเทศในยุโรป จะสังเกตว่า แทบจะหาสายฉีดก้นในประเทศเหล่านี้ไม่ได้เลย
ที่เป็นแบบนี้ส่วนสำคัญก็เพราะ ประเทศเหล่านี้อยู่ในเขตหนาว อากาศหนาวเย็นแทบทั้งปี ทำให้เวลาเปิดน้ำชำระล้าง จะเย็นมาก
คิดภาพง่าย ๆ เหมือนตอนเราไปเที่ยวบนม่อนหรือดอย ในเชียงใหม่ หรือเชียงราย น้ำที่เปิดจากก๊อกน้ำจะเย็นมาก จนบางครั้งเราล้างมือไม่ไหว
จึงทำให้สายฉีดก้น ไม่นิยมใช้ ในประเทศเมืองหนาว อย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และยุโรป นั่นเอง..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.