Grammy จะแยก ธุรกิจเพลง IPO เข้าตลาดหุ้น

ทุกวันนี้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Grammy ไม่ได้มีแค่ธุรกิจเพลงอย่างเดียว

โดยถ้ามาดูโครงสร้างรายได้ของ Grammy แยกตามประเภทธุรกิจปี 2565 

- ธุรกิจเพลง 57%

- ธุรกิจโฮมช็อปปิง 26%

- ธุรกิจภาพยนตร์ 8%

- ธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 4%

- ธุรกิจสื่อและอื่น ๆ 3%

- รายได้อื่น 2%

ซึ่ง Grammy เพิ่งส่งจดหมายรายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัท มีมติจะแยกธุรกิจเพลงครบวงจร มาทำการ IPO หรือก็คือเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นไทย

รายละเอียดเรื่องนี้ มีอะไรบ้าง ?

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

ธุรกิจที่จะแยกออกมา IPO ที่ว่านี้ คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จํากัด หรือ GMM Music ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Grammy

โดยภายใต้ GMM Music จะเป็นธุรกิจเพลงครบวงจรตั้งแต่

- การคัดเลือกศิลปิน 

- การผลิตผลงานเพลง 

- การทําการตลาด

- การบริหารและจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง 

- การจัดจําหน่ายสินค้าเพลงทั้งรูปแบบ Digital และ Physical 

- เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตและเฟสติวัล 

- เป็นผู้ดําเนินการบริหารศิลปิน

ซึ่งหลายคนจะรู้ดีว่าธุรกิจเพลงของเครือ Grammy ครอบคลุมศิลปินดัง ๆ เยอะมาก ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ 

เช่น เบิร์ด-ธงไชย, Potato, Bodyslam, Lomosonic, Paper Planes, Three Man Down, Tilly Birds

แล้วธุรกิจเพลงของ GMM Music

เทียบกับผลประกอบการรวมของบริษัทแม่อย่าง Grammy เป็นอย่างไร ?

ผลประกอบการของ GMM Music ปี 2565 

รายได้ 3,056 ล้านบาท กำไร 269 ล้านบาท

ผลประกอบการของ Grammy ปี 2565 

รายได้ 5,322 ล้านบาท กำไร 166 ล้านบาท

จะเห็นว่าธุรกิจเพลง GMM Music คิดเป็นรายได้ 57% ของรายได้ทั้งหมดของ Grammy เลยทีเดียว

และจะเห็นว่า GMM Music มีกำไรเยอะกว่าบริษัทแม่ ซึ่งแบบนี้สะท้อนว่า Grammy ขาดทุนจากธุรกิจอื่น

โดยโครงสร้างรายได้ของ Grammy แยกตามประเภทธุรกิจปี 2565 

ธุรกิจเพลง 57%

ธุรกิจโฮมช็อปปิง 26%

ธุรกิจภาพยนตร์ 8%

ธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 4%

ธุรกิจสื่อและอื่น ๆ 3%

รายได้อื่น 2%

ซึ่งการที่ Grammy จะแยก GMM Music มาเข้าตลาดหุ้นก็จะมีข้อดี อย่างเช่น

- GMM Music จะระดมทุนด้วยตัวเองได้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งตลาดตราสารทุน และตลาดตราสารหนี้

- ปลดล็อกมูลค่าของ GMM Music และจะสะท้อนมูลค่าโดยอ้อมในมูลค่าเงินลงทุนของ Grammy ใน GMM Music ตามสัดส่วนการถือหุ้น

โดยรายละเอียดดีลคร่าว ๆ ตอนนี้ ทาง Grammy บอกว่า

จํานวนหุ้นที่จะเสนอขายในการ IPO จะคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของทุนชําระแล้วทั้งหมดของ GMM Music 

หมายความว่า ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ไปแล้ว Grammy จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นผู้มีอํานาจควบคุมของ GMM Music 

และ GMM Music จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ Grammy เหมือนเดิม

Reference

-https://weblink.set.or.th/dat/news/202307/0473NWS310720230742260580T.pdf