กรณีศึกษา ธุรกิจค้าปลีกของ OR อัตรากำไรเป็น 9 เท่า ของธุรกิจ ขายน้ำมัน

กรณีศึกษา ธุรกิจค้าปลีกของ OR อัตรากำไรเป็น 9 เท่า ของธุรกิจ ขายน้ำมัน

25 ก.ค. 2023
กรณีศึกษา ธุรกิจค้าปลีกของ OR อัตรากำไรเป็น 9 เท่า ของธุรกิจ ขายน้ำมัน | BrandCase
ทุกวันนี้ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันส่วนใหญ่ ไม่ได้มีรายได้จากการขายน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว
แต่มีรายได้มาจาก 2 ส่วนหลักคือ ธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน หรือที่เรียกกันว่า “ธุรกิจ Non-Oil”
และสำหรับ OR ที่เป็นเจ้าของสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ของประเทศอย่าง PTT Station
ธุรกิจ Non-oil ที่เป็นส่วนของการค้าปลีก สามารถทำอัตรากำไรได้เป็น 9 เท่าของ ธุรกิจค้าขายน้ำมัน
รายละเอียดข้อมูลตรงนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
เรามาดูประเภทธุรกิจของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กัน
-ธุรกิจขายน้ำมัน
เป็นการขายน้ำมันปิโตรเลียมผ่าน PTT Station รวมทั้งขายน้ำมันปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ให้กับลูกค้ากลุ่มอากาศยาน เรือขนส่ง และกลุ่มอุตสาหกรรม
-ธุรกิจค้าปลีก
ธุรกิจค้าปลีกภายในสถานีบริการน้ำมัน เช่น ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย เช่น Café Amazon, เท็กซัส ชิคเก้น, จิฟฟี่, ฮั่วเซ่งฮง
และรวมถึงศูนย์บริการยานยนต์ อย่าง FIT Auto
-กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ
ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจอื่น ๆ ในต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว เมียนมา และกัมพูชา
ซึ่งเมื่อดูรายได้และกำไรจากการดำเนินงานใน 3 ธุรกิจของ OR ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 จะพบว่า
-ธุรกิจขายน้ำมัน
มีรายได้ 185,418 ล้านบาท
กำไรจากการดำเนินงาน 3,211 ล้านบาท
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน 1.7%
-ธุรกิจค้าปลีก
มีรายได้ 5,328 ล้านบาท
กำไรจากการดำเนินงาน 808 ล้านบาท
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน 15%
-ธุรกิจกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ
มีรายได้ 11,648 ล้านบาท
กำไรจากการดำเนินงาน 231 ล้านบาท
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน 2%
จะเห็นว่า ส่วนธุรกิจที่ทำรายได้และกำไรจากการดำเนินงานให้ OR มากสุด คือธุรกิจขายน้ำมัน
แต่ถ้าโฟกัสที่ “อัตราการทำกำไร” คือเอากำไร เทียบกับรายได้ของส่วนนั้น ๆ
จะเห็นได้ว่า ธุรกิจค้าปลีก มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 15% สูงสุดในบรรดากลุ่มธุรกิจทั้งหมด
และคิดเป็น 9 เท่า ของธุรกิจขายน้ำมัน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ OR
ซึ่งนอกจากอัตรากำไรที่สูงกว่าแล้ว ธุรกิจกลุ่ม Non-Oil นั้น ยังมีความผันผวนน้อยกว่าธุรกิจขายน้ำมันที่ต้นทุนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ทั้งในส่วนของ ราคาน้ำมันดิบ ค่าการกลั่น และค่าเงิน ทำให้กำไรในส่วนนี้ไม่มั่นคงเท่ากับกลุ่ม Non-Oil
นั่นเลยทำให้ OR และผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันรายอื่น ๆ พยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Oil มากขึ้นจากปัจจุบัน
เนื่องจากอัตรากำไรที่สูงกว่า และควบคุมได้ง่ายกว่าธุรกิจขายน้ำมันนั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ถือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมากอุตสาหกรรมหนึ่ง
โดยในช่วงสิ้นปี 2565 ประเทศไทยมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมากถึง 28,000 แห่ง
และสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ของ OR แม้จะมีจำนวนมากที่สุด
แต่ก็ยังคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 9% ของจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด ในประเทศไทย..
References
-https://www.pttor.com/th
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2566, บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี/รายงานประจำปี 2565, บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.