น้ำผลไม้ Malee เกิดเพราะ สับปะรดล้นตลาด

น้ำผลไม้ Malee เกิดเพราะ สับปะรดล้นตลาด | BrandCase

Malee หรือ น้ำผลไม้มาลี เมื่อพูดถึงชื่อนี้ หลายคนก็คงนึกถึงอาหารกระป๋อง และผลไม้กระป๋อง
แต่ที่หลายคน อาจยังไม่รู้คือ จุดเริ่มต้นของมาลีนั้น เริ่มมาจากการขาย “นมข้นหวานกระป๋อง” มาก่อน

เส้นทางของน้ำผลไม้มาลี กว่าจะถึงวันนี้เป็นอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง

ผู้ก่อตั้งแบรนด์น้ำผลไม้มาลี คือ คุณฉัตรชัย บุญรัตน์

ซึ่งต้องเล่าก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำธุรกิจนี้
ตระกูลบุญรัตน์ ทำนมข้นหวานกระป๋องแบรนด์ โรบินฮู้ด มาก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งในสมัยก่อน

ส่วนจุดเริ่มต้นของ น้ำผลไม้มาลี เกิดจากการที่คุณฉัตรชัย บุญรัตน์ เดินทางไปพักผ่อนที่หัวหิน

ระหว่างทางเขาก็พบเห็นสับปะรดจำนวนมาก ถูกวางทิ้งไว้ข้างทาง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ในตอนนั้นเป็นช่วงที่สับปะรดล้นตลาด ราคาจึงถูกมาก

คุณฉัตรชัย จึงเกิดไอเดียอยากแปรรูปสับปะรด ให้เป็นสินค้าที่ขายได้ตลอดทั้งปี โดยคิดไอเดียออกมาเป็นสับปะรดกระป๋อง ที่ขนส่งง่าย เก็บได้นาน
และได้ลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปขึ้นมา แล้วรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกร

เรื่องนี้ทำให้คุณฉัตรชัย กลายเป็นคนแรก ๆ ในไทย ที่นำสับปะรดมาแปรรูปใส่กระป๋อง
ซึ่งต่อมาโรงงานก็เริ่มส่งสับปะรดกระป๋อง ออกไปขายยังต่างประเทศด้วย

เวลาผ่านไป กิจการของมาลีค่อย ๆ เติบโตขึ้น บริษัทก็มีการขยายกิจการ รวมถึงขยายกำลังการผลิต

มีการสร้างโรงงานขึ้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทำให้บางคนจึงมักมีคำพูดติดปากกันว่า “มาลี สามพราน”

ก่อนที่ในเวลาต่อมา ตระกูลบุญรัตน์จะมีการรีแบรนด์มาใช้ชื่อว่า “มาลีกรุ๊ป” เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ดูมีความเป็นสากลมากขึ้น

ปัจจุบัน ธุรกิจของ มาลีกรุ๊ป แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ คือ

-ธุรกิจการขายสินค้า ภายใต้แบรนด์ของมาลี และแบรนด์อื่น ๆ ที่บริษัทเป็นเจ้าของ
เช่น มาลี ทรอปิคอล, มาลีโคโค่, มาลีฟรุตเฟรช, น้ำดื่ม good water, ฟาร์มโชคชัย

-ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญา และรับจ้างผลิตสินค้า ให้แก่แบรนด์เครื่องดื่มของลูกค้า
โดยมีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยกตัวอย่างสินค้าที่รับจ้างผลิต เช่น น้ำผลไม้, ชา, กาแฟ, นม, น้ำดื่ม

-ธุรกิจฟาร์มโคนม ที่ผลิตและจำหน่ายน้ำนมดิบให้แก่ทางสหกรณ์โคนม

-ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น โดยมีรายได้เป็นค่าเช่าและค่าบริการที่เรียกเก็บจากผู้เช่า

แล้วตอนนี้ มาลีกรุ๊ป รายได้ดีแค่ไหน ?

จากผลประกอบการของบริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในรอบ 3 เดือนแรก ปี 2566

-รายได้ 1,913 ล้านบาท

-กำไร 34 ล้านบาท

แม้ตัวเลขกำไรจะดูเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก หากเทียบกับรายได้
แต่ที่น่าสนใจคือ ในไตรมาสนี้บริษัทสามารถกลับมาทำกำไรได้ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ขาดทุนติดต่อกันมา 2 ปี

โดยสาเหตุมาจาก ภาพตลาดโดยรวมที่ฟื้นตัวจากช่วงที่มีโรคระบาด บวกกับกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นไปที่สินค้าต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Malee

โดยที่สัดส่วนรายได้ของ มาลีกรุ๊ป ในปัจจุบัน
มาจากตลาดในประเทศอยู่ที่ 73% และตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 27%

โดยมาลีกรุ๊ป ก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย มีมูลค่าบริษัทประมาณ 3,600 ล้านบาท

ในปัจจุบัน มาลีกรุ๊ป ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้รายใหญ่อันดับต้น ๆ ในประเทศไทย

โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มน้ำผลไม้พรีเมียม อยู่ที่ประมาณ 33%

และในกลุ่มน้ำมะพร้าวพรีเมียม ก็มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ที่ประมาณ 22%

และนี่คือเรื่องราวของน้ำผลไม้มาลี ธุรกิจพันล้านบาท ที่เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการนำสับปะรดที่ล้นตลาดมาแปรรูปขาย

จนกลายเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ..

References
-https://www.maleegroup.com/th/
-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/MALEE/financial-statement/company-highlights
-https://readthecloud.co/nextgen-14/
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี/รายงานประจำปี 2565, บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)