ตราถ้วยทอง ยาหม่องตลับเล็ก ๆ รายได้หลัก ร้อยล้าน

ตราถ้วยทอง ยาหม่องตลับเล็ก ๆ รายได้หลัก ร้อยล้าน

23 เม.ย. 2023
ตราถ้วยทอง ยาหม่องตลับเล็ก ๆ รายได้หลัก ร้อยล้าน | BrandCase
“ทาถูทาถู มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว”
เป็นประโยคที่ใครหลายคนคงคุ้นหูกันมาบ้าง ซึ่งเจ้าของประโยคนี้คือ ยาหม่องตราถ้วยทอง
รู้ไหมว่า นับจากวันแรกที่ยาหม่องตราถ้วยทองเกิดขึ้นมา
จนถึงวันนี้ ก็นับเป็นเวลากว่า 70 ปี เข้าไปแล้ว
แล้วเส้นทางของ ยาหม่องตราถ้วยทอง มีอะไรน่าสนใจ ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของยาหม่องตราถ้วยทอง เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2487
โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ที่เมืองไทย แล้วเปิดร้านขายของชำที่ชื่อว่า ร้านลี้เปงเฮง อยู่บริเวณย่านตลาดพลู
สินค้าภายในร้านนี้ ส่วนมากจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ และยังไม่ได้มียาหม่องวางขายในช่วงแรก
แต่แล้วเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ในตอนนั้น ได้เกิดไข้มาลาเรียระบาดหนักในประเทศไทย
ชาวจีนที่เป็นเจ้าของร้านลี้เปงเฮงที่ว่า ซึ่งก็คือคุณปู่ของ คุณเมธัส ลีลารัศมี ทายาทรุ่นที่ 3 ของยาหม่องตราถ้วยทอง
จึงเริ่มคิดค้นยาที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แก้พิษแมลงกัดต่อย
จนสุดท้ายก็ได้เป็นยาขี้ผึ้งเนื้อสีเหลืองทอง ในตลับสีส้มออกมา
แต่ต้องบอกว่า ในตอนแรก ชื่อที่ใช้นั้น มีชื่อว่า “อุนตกกอ” ซึ่งมีความหมายว่า น้ำมันนักกีฬา
แต่คนทั่วไปเมื่อเห็นชื่อแล้ว ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
ทำให้ในเวลาต่อมา จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ถ้วยทอง เพื่อเป็นการสื่อถึงชัยชนะ ทั้งยังทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายมากขึ้น
เวลาผ่านไป ยาหม่องตราถ้วยทองเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งคุณปู่ของคุณเมธัส ก็มีการปรับปรุงสูตรให้เหมาะสม จนกระทั่งได้สูตรที่มั่นใจว่าดี และเหมาะสมที่จะขายได้
พอเป็นแบบนี้ จึงมีการจดทะเบียนก่อตั้ง บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด ในเวลาต่อมา
โดยในตอนนั้น กลยุทธ์ที่ตราถ้วยทองนำมาใช้ คือการใช้ช่องทางโฆษณา เพื่อให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
เช่น การลงโฆษณากับทางกันตนา ตั้งแต่ยุคบุกเบิกที่เป็นคณะละครวิทยุ พร้อมทั้งคิดค้นสโลแกนที่ฟังง่ายและติดหูอย่าง “ทาถูทาถู มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว”
ซึ่งต้องบอกว่า สมัยก่อนนั้น ละครวิทยุของกันตนา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ชื่อของถ้วยทองเลยติดหูไปพร้อม ๆ กัน
แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ การทำ “รถฉายหนังกลางแปลง”
พวกเขาเอาหนังกลางแปลงไปฉายตามจังหวัดต่าง ๆ
โดยเปิดให้เข้าชมหนังฟรี แต่จะมีช่วงพักเบรกที่จะโฆษณาขายยาหม่องไปด้วย
รวมทั้งมีการกำหนดเป้าด้วยว่า ต้องซื้อให้ได้ยอดเท่านี้ ถึงจะสามารถรับชมหนังต่อได้
และด้วยราคาที่ไม่แพง เพียงแค่ 50 สตางค์ในตอนนั้น ลูกค้าก็เต็มใจจ่าย ทั้งยังได้ชมหนัง และได้ยาหม่องกลับบ้านไปใช้ด้วย
โดยสาเหตุที่มุ่งเป้าไปที่ลูกค้ากลุ่มดูหนังกลางแปลงเพราะว่า
ปกติเวลาดูหนังกลางแปลง ผู้ชมต้องนั่งตามพื้นดินหรือพื้นหญ้า บางคนจะโดนแมลงมาต่อยมาตอม
ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่ว่ามานี้ ทำให้ยาหม่องตราถ้วยทอง ยิ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปในตัว
จนปัจจุบัน ยาหม่องตราถ้วยทอง ถือเป็นผู้นำตลาดยาหม่องในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังมีการส่งออกสินค้าไปขายยังหลายทวีปอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
มาวันนี้ต้องบอกว่า นอกจากยาหม่องที่เป็นสินค้าชูโรงแล้ว ตราถ้วยทอง ยังมีการผลิตสินค้าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็น ยาหม่องน้ำ, ยาดม, คิดดี้ บาล์ม, ไมโอครีม, แอลกอฮอล์ รวมไปถึงยาแผนปัจจุบันอื่น ๆ เฉพาะทาง
และถ้าถามว่าธุรกิจนี้ รายได้และกำไร ดีแค่ไหน ?
ลองมาดูผลประกอบการของ บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด
ปี 2563 รายได้ 396 ล้านบาท กำไร 103 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 415 ล้านบาท กำไร 117 ล้านบาท
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.