บริษัทเกม Konami ขายตั้งแต่ การ์ดยูกิ จนถึง ตู้ปาจิงโกะ

บริษัทเกม Konami ขายตั้งแต่ การ์ดยูกิ จนถึง ตู้ปาจิงโกะ | BrandCase

ถ้าพูดถึงยุค 90’s แทบทุกคนน่าจะรู้จัก การ์ดยูกิ และเกมฟุตบอลในตำนาน อย่าง Winning ที่เล่นกันในเครื่องเกมคอนโซล

ซึ่งทั้งการ์ดยูกิ และเกม Winning ต่างมีต้นกำเนิดมาจากบริษัทญี่ปุ่น ที่ชื่อว่า Konami
และบริษัทนี้ ก็ยังขายพวกตู้ปาจิงโกะ และตู้ Slot Machine ที่อยู่ตามกาสิโนด้วย

แล้ว Konami มีที่มาที่ไปอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

ย้อนกลับไปในปี 1969 ตอนนั้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น กำลังกลับมาเฟื่องฟูหลังผ่านพ้นสงครามโลก

Kagemasa Kozuki ผู้ก่อตั้ง Konami ได้เริ่มต้นธุรกิจของเขาเอง ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่าย และรับซ่อมตู้เพลง ก่อนที่ในอีก 4 ปี จะต่อยอดธุรกิจรับซ่อม ไปเป็นผู้ผลิตตู้เพลง และตู้เกมหยอดเหรียญ

ด้วยความที่เทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคนั้น ยังไม่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน
ตู้เกมหยอดเหรียญ จึงกลายเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าวัยรุ่น ที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไปตามโรงหนังและห้างสรรพสินค้า

ซึ่ง Konami ที่รับผลิตตู้เกมหยอดเหรียญ ก็เติบโตขึ้นมาได้จากช่วงเวลานั้น

จนกระทั่ง ยุคเกมคอนโซลมาถึง Konami ก็ต้องปรับตัว..

จากเดิมเป็นเพียงผู้ผลิตตู้เกม Konami ก็หันไปเป็นผู้ผลิตเกม สำหรับเล่นในเครื่องเกมคอนโซล และตู้เกมหยอดเหรียญของตัวเองด้วย

ซึ่งการปรับตัวไปเป็นผู้ผลิตเกมของ Konami นั้น ส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นที่รู้จักในระดับโลก

ผลงานเกมชื่อดังที่หลายคนจะต้องเคยได้ยิน หรือเคยเล่นกันมาบ้าง
ก็อย่างเช่น Contra, Metal Gear, Castlevania, Silent Hill
และเกมฟุตบอลในตำนานอย่าง Winning Eleven

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ Konami ขายการ์ดยูกิด้วย
แล้ว Konami กลายเป็นผู้ผลิตการ์ดยูกิได้อย่างไร ?

ก็ต้องบอกว่าต้นกำเนิดของการ์ดยูกิ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เนื้อเรื่องช่วงหนึ่งของมังงะญี่ปุ่นเรื่อง Yu-Gi-Oh!
ซึ่งมังงะเรื่องนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ชื่อว่า Shueisha

ประเด็นคือ Konami ก็ไม่ใช่บริษัทแรก ที่ได้รับสิทธิ์ในการผลิตการ์ดออกมาวางจำหน่าย

เพราะ Bandai บริษัทผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นนั้น ได้เริ่มผลิตการ์ดออกมาครั้งแรกในปี 1998

แต่ Bandai ก็โดนยกเลิกสัญญาการผลิตในอีก 1 ปีถัดมา
เนื่องจากการ์ดยูกิ ภายใต้การดูแลของ Bandai นั้น ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้สะสมเป็นหลัก

ในขณะที่การ์ดยูกิของทาง Konami เลือกนำวิธีการเล่นจากในมังงะมาปรับปรุง และเพิ่มเติมกฎกติกาต่าง ๆ เข้าไป

จนสามารถนำการ์ดเหล่านั้นไปเล่น หรือแข่งขันกับเพื่อนคนอื่น ๆ และกลายเป็นของเล่นประจำบ้านของเหล่าเด็กยุค 90’s หลาย ๆ คน

ซึ่งต้องบอกว่า แม้ในปัจจุบันการ์ดยูกิอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากเท่าสมัยก่อน แต่ Konami ก็ยังคงพัฒนาและวางจำหน่ายการ์ดรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอยู่ตลอด
และยังคงมีฐานผู้เล่น รวมถึงงานแข่งขันระดับโลกที่จัดขึ้นทุกปี

ทีนี้ถ้าลองมาดู รายได้ 3 ปีล่าสุดของ Konami
ปี 2020 รายได้ 68,100 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 70,800 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 77,800 ล้านบาท

โดยสัดส่วนรายได้ ของปี 2022 มาจาก 3 ธุรกิจ คือ

-ผลิตและจัดจำหน่ายการ์ดยูกิ, เกมคอนโซล และเกมมือถือ 71%

-ธุรกิจผลิตตู้เกม ตู้ปาจิงโกะ และตู้ Slot Machine ตามกาสิโน 15%

-ธุรกิจอื่น ๆ 14%

อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่า ธุรกิจในปัจจุบันของ Konami นั้น แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจแรกสุด อย่างการเป็นตัวแทนจำหน่าย และรับซ่อมตู้เพลงแล้ว

เพราะ Konami พยายามปรับตัวอยู่เรื่อย ๆ
ผ่านมาทั้งยุคตู้เพลง ตู้เกมหยอดเหรียญ
ยุคเกมการ์ด มาจนถึงยุคเกมคอนโซล และเกมบนมือถือ

ซึ่งการปรับตัวอยู่ตลอดแบบนี้ ก็ทำให้บริษัทอยู่มาได้ มากกว่า 54 ปี แล้วนั่นเอง..

References
-https://yugioh.fandom.com/wiki/Yu-Gi-Oh!_Bandai%27s_Official_Card_Game
-https://img.konami.com/ir/en/ir-data/statements/2022/en0512_f3h9zd.pdf
-https://img.konami.com/ir/en/ir-data/co_download/pdf/all.pdf
-https://www.statista.com/statistics/259748/konamis-annual-revenue-by-segment/
-https://yugipedia.com/wiki/Yu-Gi-Oh!_Trading_Card_Game
-https://www.konami.com/corporate/en/history/
-https://gamerant.com/most-expensive-yu-gi-oh-cards-price-value/
-https://www.forbes.com/profile/kagemasa-kozuki/?sh=7405fd1275bb