Sadvertising วิธีโฆษณา เรียกน้ำตา ให้คนจำแบรนด์ได้
13 ก.พ. 2023
Sadvertising วิธีโฆษณา เรียกน้ำตา ให้คนจำแบรนด์ได้ | BrandCase
ทุกวันนี้มีกลยุทธ์ทำโฆษณามากมาย ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาทำให้เราจำแบรนด์ได้
และก็มีกลยุทธ์หนึ่งที่เราน่าจะเคยเห็นกัน
คือ ไม่โฆษณาแบรนด์แบบตรง ๆ
แต่ไปทำเนื้อเรื่องให้ซึ้งจนน้ำตาไหล แล้วค่อยบอกว่าเราเป็นใคร
และก็มีกลยุทธ์หนึ่งที่เราน่าจะเคยเห็นกัน
คือ ไม่โฆษณาแบรนด์แบบตรง ๆ
แต่ไปทำเนื้อเรื่องให้ซึ้งจนน้ำตาไหล แล้วค่อยบอกว่าเราเป็นใคร
กลยุทธ์โฆษณาแบบนี้คือ “Sadvertising”
Sadvertising น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
ในมุมของการทำการตลาด เรามักได้ยินกันว่า
อารมณ์ และความรู้สึก คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อของ หรือบริการอะไรก็ตาม
อารมณ์ และความรู้สึก คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อของ หรือบริการอะไรก็ตาม
ซึ่งความรู้สึกที่คนเรามักจดจำได้ดี นอกจากความสนุก และความสุขแล้ว ก็มีความเศร้า รวมอยู่ด้วย
ดังนั้น การสร้างน้ำตาให้คนอินกับโฆษณา
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คนดู จำโฆษณาและจำแบรนด์ ได้ด้วยเช่นกัน
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คนดู จำโฆษณาและจำแบรนด์ ได้ด้วยเช่นกัน
กลายเป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Sadvertising” พูดง่าย ๆ ก็คือ พยายามทำให้น้ำตาที่เกิดจากความเศร้า และความเสียใจ เป็นเรื่องที่น่าจดจำผ่านการโฆษณา
นอกจากนี้ ถ้าเราสังเกตดี ๆ Sadvertising มักเน้นการสร้างเรื่องราวที่ไม่เพียงแต่มีความหมาย กินใจคนดู
แต่ต้องการให้คนดูเปลี่ยนพฤติกรรม หรือเกิดความรู้สึกที่อยากจะทำอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้น
หนึ่งในธุรกิจที่มักนำกลยุทธ์แบบนี้มาใช้คือ บริษัทประกันชีวิต
ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์นั้นระบุว่า เมื่อคนเราได้พบเห็น ได้ยินเรื่องเศร้า หรือเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดใจ สมองจะผลิตสารเคมี 2 ชนิดออกมา คือ
-ฮอร์โมนความเครียด หรือ คอร์ติซอล
ซึ่งจะทำให้คนดูเกิดการจดจ่อ และมุ่งความสนใจไปยังเรื่องราวนั้นมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้คนดูเกิดการจดจ่อ และมุ่งความสนใจไปยังเรื่องราวนั้นมากขึ้น
-ฮอร์โมนความรัก หรือ ออกซิโทซิน
ซึ่งจะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกผูกพัน และเกิดความเห็นอกเห็นใจ
ซึ่งจะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกผูกพัน และเกิดความเห็นอกเห็นใจ
ช่วงเวลาแบบนี้จะทำให้คนดูนั้น มีโอกาสถูกโน้มน้าวได้ง่ายยิ่งขึ้น
เพราะคนเรานั้น เมื่อตัดสินใจซื้ออะไรก็ตาม หลาย ๆ ครั้งมักเกิดจากอารมณ์มากกว่าเหตุผล
เพราะคนเรานั้น เมื่อตัดสินใจซื้ออะไรก็ตาม หลาย ๆ ครั้งมักเกิดจากอารมณ์มากกว่าเหตุผล
ทำให้นักการตลาด ใช้หลักการนี้ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกในการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ของแบรนด์ และให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ง่าย
ซึ่งคนที่ดูโฆษณาผ่านการเล่าเรื่องราวเศร้า ๆ จนอิน
ก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความเศร้า ไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่ตนเองรัก..
ก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความเศร้า ไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่ตนเองรัก..