รู้จัก “LEARN Corporation” EdTech พันล้าน ที่ส่งเสริมให้คนไทย เรียนรู้ตลอดชีวิต

รู้จัก “LEARN Corporation” EdTech พันล้าน ที่ส่งเสริมให้คนไทย เรียนรู้ตลอดชีวิต

20 ธ.ค. 2022
การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ LifeLong Learning กำลังเป็นเทรนด์ที่หลายองค์กรให้ความสำคัญ
แต่นี่คือโจทย์ที่ EdTech สัญชาติไทยอย่าง “LEARN Corporation” วาดไว้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นธุรกิจ
กับความเชื่อที่ว่า “การเรียนรู้ช่วยทำให้ชีวิตคนดีขึ้น”
ผ่านมา 16 ปี Mission ของ LEARN Corporation ยังคงเหมือนเดิม
สิ่งที่เพิ่มเติม คือ การเติบโตของธุรกิจ ที่ทำให้วันนี้ LEARN Corporation กลายเป็นผู้นำ EdTech ที่ครอบคลุมที่สุดในไทย เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งาน 77 จังหวัด กว่า 2.5 ล้านคน
แล้ว LEARN Corporation ทำได้อย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้เห็นภาพแบบง่าย ๆ
ธุรกิจกลุ่ม LEARN Corporation เกิดจากแพสชันของคุณสาธร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคุณสุธี อัสววิมล กรรมการบริหารบริษัทฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พี่โหน่ง OnDemand
โดยทั้งคู่ มีแพสชันที่อยากพัฒนาคุณภาพการศึกษา จึงมองหาธุรกิจที่จะต่อยอดไอเดียให้เป็นจริง
ซึ่งอาวุธสำคัญที่ จะเข้ามาช่วยยกระดับโลกแห่งการเรียนรู้ให้กับคนไทย​ ก็คือ การสร้าง EdTech หรือการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวกลาง ในการสร้างโลกแห่งการเรียนรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย
ปัจจุบัน LEARN Corporation ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1. Out-School หรือธุรกิจสอนพิเศษและแนะแนวการศึกษา
ได้แก่ OnDemand และ Ignite by OnDemand เป็นต้น ซึ่งถือเป็นกวดวิชาภาคไทยและภาคอินเตอร์ระดับแนวหน้าของประเทศ
ธุรกิจกลุ่มนี้ จะเน้นพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาการ นอกเหนือจากในห้องเรียน ตั้งแต่วัยประถมถึงมัธยม รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่อในต่างประเทศกับวัยเรียนและวัยทำงาน
ผ่านแพลตฟอร์ม Learn Anywhere ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเรียนออนไลน์ที่รวบรวมคอนเทนต์จากกลุ่ม Out-School ไว้ครบจบในแอปพลิเคชันเดียว
ปัจจุบัน OnDemand มีการเติบโตทางการตลาดประมาณ 700 ล้านบาท
ส่วน Ignite by OnDemand มีการเติบโตทางการตลาดประมาณ 200 ล้านบาท
2. Chain School หรือธุรกิจบริหารโรงเรียนเอกชน
ธุรกิจกลุ่มนี้จะเน้นบริหารและดูแลหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน
ปัจจุบันมีโรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยม หรือ LSP (LEARN Satit Pattana) อยู่ภายใต้การบริหารงานโดยการใช้เทคโนโลยี และคอร์สเรียนคุณภาพจาก LEARN Corporation
ควบคู่กับแผนการเรียนตามเป้าหมายรายบุคคลที่ตรงประเด็น เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย และทักษะภาษาอังกฤษมาตรฐาน Cambridge International
หลังจาก LEARN Corporation เข้าไปดูแล ทำให้โรงเรียนสามารถเพิ่มจำนวนนักเรียนจากหลัก ​100 คน เป็น 900 คน ในระยะเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ คุณสาธร คาดว่า ปีนี้จะมีนักเรียนมากกว่า 1,000 คน และในปี 2566 ยังมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติม
เพราะตั้งเป้าว่าอยากเป็นโรงเรียนต้นแบบให้แก่โรงเรียนในระบบต่าง ๆ

ปัจจุบันมีการเติบโตทางการตลาดประมาณ 300 ล้านบาท
3. Professional & Skills หรือกลุ่มพัฒนาทักษะการทำงานแห่งโลกอนาคต และแพลตฟอร์มการเรียนรู้
ได้แก่ Skooldio และ Degree Plus เป็นต้น
ธุรกิจกลุ่มนี้ จะเน้นพัฒนาทักษะใหม่แห่งอนาคตให้กับวัยทำงาน หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานโลก
ที่ผ่านมาธุรกิจกลุ่มนี้ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำระดับประเทศกว่า 500 แห่ง
ขณะนี้มีการเติบโตทางการตลาดประมาณเกือบ 100 ล้านบาท
4. In-School หรือธุรกิจผลิตสื่อและเนื้อหาสนับสนุนการสอนในโรงเรียน
ธุรกิจกลุ่มนี้ จะใช้เทคโนโลยี Online Blended Learning Solution หรือการเรียนการสอนออนไลน์แบบผสมผสานที่สามารถให้ผู้เรียนและผู้สอนบูรณาการการเรียนร่วมกัน
โดยเทคโนโลยีดังกล่าว ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาแล้วกว่า 500 โรงเรียน ทั่วประเทศ
มีการเติบโตทางการตลาดประมาณ 200 กว่าล้านบาท
จะเห็นว่า ธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ไม่เพียงครอบคลุมในธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของคนไทย
แต่ผลตอบรับในทุกธุรกิจยังเติบโต และได้รับการตอบรับอย่างดี
ถ้าถามว่า LEARN Corporation ทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร ?
คำตอบง่าย ๆ ก็เพื่อตอบสนองแพสชันตั้งต้นที่อยากพัฒนาการศึกษา เพื่อให้คนและสังคมมีความสุขอย่างยั่งยืน
จะเห็นว่า ที่ผ่านมา LEARN Corporation ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง จนสามารถต่อยอดธุรกิจ EdTech เกิดเป็น Lifelong Learning EdTech Ecosystem หรืออีโคซิสเต็ม เพื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด
สามารถตอบสนองการเรียนรู้ทุกช่วงวัย และครอบคลุมทุกกลุ่มคน ไม่ใช่เฉพาะแค่นักเรียนหรือในสถานศึกษา
ปัจจุบัน 4 กลุ่มธุรกิจ สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม 77 จังหวัด มากกว่า 2.5 ล้านคน
แน่นอนว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้ LEARN Corporation ประสบความสำเร็จ และขยายอาณาจักรการเรียนรู้มาได้อย่างโดดเด่น
คุณสาธร เฉลยว่า มาจากการที่ LEARN Corporation ที่ให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง
- พัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ
- สร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีทีม Learning Design Technology หรือทีมออกแบบเทคโนโลยีการเรียนรู้ เพื่อวัดความสำเร็จของผู้เรียน และปรับการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด
- ออกแบบเทคโนโลยีจากอินไซต์ของผู้ใช้ ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษาในระบบ หรือผู้ให้บริการคอนเทนต์
ด้วยความเชื่อที่ว่า แพลตฟอร์มที่ดีควรจะมอบประสบการณ์ พร้อมการเรียนรู้ที่ดีควบคู่กับการวัดผลเชิงคุณภาพอีกด้วย
แน่นอนว่า ด้วยหัวใจสำคัญทั้ง 3 เรื่อง ทำให้ LEARN Corporation ไม่เพียงสร้าง Social Impact หรือผลลัพธ์เพื่อสังคมในวงกว้าง
ในเชิงธุรกิจ LEARN Corporation ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะเป็นธุรกิจที่ลูกค้ายังมีดีมานด์ต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา​ LEARN Corporation มีอัตราการเติบโตถึง 3-4 เท่าตัว มีมูลค่าธุรกิจรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
โดยคาดว่าในปีหน้ายอดขายจะมีการเติบโตประมาณ 20%
จากความสำเร็จทั้งในมิติการสร้างผลกระทบต่อสังคมและในเชิงธุรกิจนี้เอง
ทำให้ LEARN Corporation มีแผนที่จะผลักดันองค์กรเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ต่อยอดไอเดียและนวัตกรรมให้เกิด Impact ต่อสังคมได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เพราะด้วยความที่ LEARN Corporation เป็นธุรกิจด้านการเรียนรู้
ดังนั้น ในการเติบโตทุกก้าวของ จึงไม่ใช่แค่ในเชิงตัวเลขหรือผลกำไร
แต่ทุกก้าวของ LEARN Corporation คือ การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ให้กับคนไทยนั่นเอง..
เรียนรู้ EdTech จาก LEARN Corporation เพิ่มเติมได้ที่ www.learn.co.th
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.