ทำไมญี่ปุ่น ถึงเป็นประเทศแห่ง ร้านสะดวกซื้อ

ทำไมญี่ปุ่น ถึงเป็นประเทศแห่ง ร้านสะดวกซื้อ

11 ธ.ค. 2022
ทำไมญี่ปุ่น ถึงเป็นประเทศแห่ง ร้านสะดวกซื้อ | BrandCase
ถ้าถามว่า ประเทศไหนในโลกที่เป็นเจ้าแห่งร้านสะดวกซื้อ ?
เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงประเทศ “ญี่ปุ่น” เป็นชื่อแรก ๆ
หากใครที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น ก็น่าจะพบเห็นร้านสะดวกซื้อ กระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ เต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเดินไปตามตรอก ซอกซอยไหนก็ตาม
โดยปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีจำนวนร้านสะดวกซื้อมากถึง 55,900 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ
แล้วทำไมญี่ปุ่น ถึงเป็นประเทศเจ้าแห่งร้านสะดวกซื้อ
จุดเริ่มต้นของร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่น หรือที่คนญี่ปุ่นนิยมเรียกว่า “คอนบินิ” นั้น
มีพัฒนาการที่เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา
ด้วยสาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะว่า เมื่อผู้หญิงญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน ออกมาทำงานนอกบ้านกันมากขึ้น เริ่มมีบทบาทเช่นเดียวกันกับผู้ชายญี่ปุ่น ทำให้ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ค่อยมีเวลาในการเตรียมอาหารให้แก่ครอบครัวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การที่ผู้ชายและผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ ยังทำให้รายได้ต่อครัวเรือนนั้นเพิ่มขึ้น นั่นก็หมายถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามมา นำมาสู่การบริโภคที่มากขึ้นอีกด้วย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทกับสังคมญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการเติบโตและขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
ปี 1974 ญี่ปุ่นมีร้านสะดวกซื้อทั้งหมด 1,000 แห่งทั่วประเทศ
ปี 2021 ญี่ปุ่นมีร้านสะดวกซื้อทั้งหมด 55,900 แห่งทั่วประเทศ
ครอบคลุมชนิดที่ว่า เราสามารถเจอร้านสะดวกซื้ออย่างน้อย 1 ร้านต่อพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร ในประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ในประเทศไทย เราจะพบเห็นร้านสะดวกซื้อ 1 ร้านต่อพื้นที่ 25 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
ปัจจุบัน 3 แบรนด์ร้านสะดวกซื้อที่เป็นรายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย
1.ร้าน 7-Eleven จำนวน 21,170 สาขา
2.ร้าน FamilyMart จำนวน 16,500 สาขา
3.ร้าน Lawson จำนวน 14,600 สาขา
ซึ่งทั้ง 3 รายที่กล่าวมานี้รวมกัน มีส่วนแบ่งในตลาดเกินกว่า 93% ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
โดยสิ่งที่ทำให้ร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนญี่ปุ่น
หรือแม้แต่จากชาวต่างชาติที่เดินทางไปญี่ปุ่นเอง มีหลายเหตุผลตั้งแต่
-มีอาหารให้เลือกหลากหลาย
ภายในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นนั้น มีของกินหลากหลาย สำหรับให้ลูกค้าเลือกซื้อ
จนบางคนถึงขนาดบอกว่า สามารถมาหาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ โดยที่ไม่ซ้ำกันตลอดทั้งสัปดาห์ก็ยังได้
นอกจากนี้ แต่ละสาขายังมีเมนูอาหารท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะขายเฉพาะในภูมิภาค ตามเทศกาล หรือตามเมืองนั้น ๆ ยังรวมไปถึงมีเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นจนนับไม่ถ้วน
-ร้านสะดวกซื้อหลายแห่งเป็นร้าน Duty Free
หลายปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นนั้นเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมากขึ้น เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
และด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และการเข้ามาใช้บริการในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นนี่เอง ทำให้ร้านสะดวกซื้อตามจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่น หันมาทำ Duty Free สามารถขายสินค้าปลอดภาษีอากรให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกทาง
-บริการความสะดวกอื่น ๆ
ร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้เพียงแค่ขายสินค้าให้แก่ลูกค้าเท่านั้น
แต่ยังให้บริการอย่างอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร สแกนเนอร์ แฟกซ์ และพรินเตอร์
หรือแม้แต่การพรินต์รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนทำงานหรือนักเรียน
รวมถึงยังมีบริการขายตั๋วรถบัส ตั๋วคอนเสิร์ต การรับส่งพัสดุภายในประเทศ มีที่นั่งจิบกาแฟสด นั่งทานข้าว พร้อมบริการ Free-WiFi และลูกค้ายังสามารถใช้ห้องน้ำในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นได้อีกด้วย
ถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า ร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่น มีการเติบโตอย่างมากในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา
จนมาวันนี้ กลายมาเป็นต้นแบบและมีอิทธิพลอย่างมากต่อร้านสะดวกซื้อในหลาย ๆ ประเทศ
รวมไปถึงประเทศไทยด้วย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า ปัจจุบัน ร้าน 7-Eleven ของญี่ปุ่นนั้น เป็นของบริษัท Seven & i Holdings ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลก โดยในปี 2022 มีรายได้และมีมูลค่า market cap สูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.