Warrix แบรนด์ชุดกีฬาไทย ที่กำลังจะ IPO

Warrix แบรนด์ชุดกีฬาไทย ที่กำลังจะ IPO

25 พ.ย. 2022
Warrix แบรนด์ชุดกีฬาไทย ที่กำลังจะ IPO | BrandCase
ถ้าพูดถึงแบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาสัญชาติไทย ที่เราคุ้นเคย
หลายคนน่าจะนึกถึง FBT หรือ Grand Sport
แต่ถ้าพูดถึงน้องใหม่ในวงการนี้ที่มาแรง คงต้องมีชื่อของ “วอริกซ์ สปอร์ต” หรือที่คนส่วนใหญ่มักเรียกว่า Warrix
จากอดีตที่เป็นโรงงานทอผ้า
วันนี้ Warrix กำลังจะเข้ามาเป็นบริษัทที่ IPO ขายหุ้นให้เราได้ซื้อกันในตลาดหุ้นไทย
เส้นทางของ Warrix เป็นอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง
Warrix เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาของไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ต่อมาบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยคุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ได้เข้ามาซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับคุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล
ด้วยความที่เขาคลุกคลีอยู่ในธุรกิจครอบครัว ที่เป็นโรงงานทอผ้า ทำให้เขาสามารถนำเอาความรู้จากธุรกิจทอผ้า มาประยุกต์และปรับใช้
โดยเฉพาะในเรื่องนวัตกรรมเส้นใย และการพัฒนาเนื้อผ้ากีฬาที่มีคุณภาพ ได้เป็นอย่างดี
ช่วงแรก Warrix เข้าเป็นสปอนเซอร์ในการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้ากีฬา ให้กับทีมสโมสรฟุตบอลของไทยตามต่างจังหวัด ทั่วทุกภูมิภาค
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เกิดขึ้นในปี ​2559
เมื่อบริษัทชนะการประมูลผู้ผลิตชุดแข่งขันให้กับทีมฟุตบอล ทีมชาติไทย ด้วยมูลค่าการประมูล 400 ล้านบาท ในช่วงระหว่างปี 2560-2563
ขณะที่ปัจจุบัน สัญญาครั้งล่าสุดที่ Warrix ชนะการประมูลผู้ผลิตชุดแข่งขันให้กับทีมฟุตบอล ทีมชาติไทย จะอยู่ในช่วงระหว่างปี 2564-2571
แต่ต้องบอกว่า นอกจากชุดแข่งแล้ว Warrix ยังได้รับสิทธิ์ให้เป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าและสินค้าอื่น ๆ อีก
เช่น ชุดซ้อม ชุดลำลอง ชุดเดินทาง ถุงเท้า กระเป๋ากีฬา ของนักกีฬาทีมชาติไทยทุกชุด รวมทั้งเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย และสินค้าที่ระลึก
ขณะที่นอกจากเสื้อผ้าชุดกีฬาฟุตบอลแล้ว ก็ยังขยายไปสู่เสื้อผ้ากีฬาประเภทอื่น ๆ ด้วย
เช่น ชุดวิ่ง, ชุดโยคะ, ชุดเทนนิส, ชุดบาสเกตบอล, ชุดกอล์ฟ
พอเป็นแบบนี้ จึงทำให้ชื่อแบรนด์ Warrix เป็นที่รู้จัก และเติบโตมากขึ้น ในวงการกีฬาของประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทยังขยายฐานการรับรู้ของแบรนด์ ไปยังต่างประเทศ
ผ่านการได้สิทธิ์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย ให้กับทีมกีฬาต่างประเทศหลายทีม ตัวอย่างเช่น
-นักกีฬาฟุตบอล ทีมชาติเมียนมา
-นักกีฬาเซปักตะกร้อ ทีมชาติมาเลเซีย
-สโมสรฟุตบอลในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ลาว และมาเลเซีย
-สโมสรฟุตซอล ในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งจากจุดนี้ ทำให้เราสามารถบอกได้ว่า Warrix ใช้กลยุทธ์ Sport Marketing ในการสร้างแบรนด์ ผ่านทีมกีฬาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้แบรนด์ไปสู่การยอมรับมากขึ้นในระดับสากล
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัท
98% มาจากตลาดในประเทศ และที่เหลืออีก 2% มาจากตลาดต่างประเทศ
โดย Warrix ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าตามไลฟ์สไตล์ของผู้คน ด้วยการพัฒนาใน 5 ด้านหลัก คือ
1.Sports
ขยายไลน์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาให้ครอบคลุมประเภทกีฬาที่หลากหลาย เช่น ฟุตบอล วิ่ง บาสเกตบอล เทรนนิ่ง กอล์ฟ และเทเบิลเทนนิส
2.Active & Lifestyle
ขยายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุก lifestyle และ กิจกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ในชีวิตประจำวัน Streetwear เสื้อชั้นใน ผลิตภัณฑ์ทำจากคอตตอน
3.Health
ขยายไปยังธุรกิจด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จากโครงการเดิมคลีนิค Warrix Physiotherapy & Performance Studio ในพื้นที่สเตเดียมวัน ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา WARRIX Run Hub ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีแผนเปิดโครงการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาบริเวณถนนพระรามเก้า
4.Explorer
ขยายฐานลูกค้า และทำให้แบรนด์ Warrix เป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยการเป็นผู้จัด และผู้ร่วมสนับสนุนโครงการงานวิ่ง งานเทศกาลดนตรี อาหาร และงานอีเวนท์ต่าง ๆ
5.Web 3.0
ขยายตลาดด้วยการร่วมมือกับ Partner D.OASIS ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โอกาสในโลกเสมือนภายใต้ The Sandbox Metaverse เชื่อมโลกสู่ธุรกิจโลกกว้าง และใช้ Influencer สร้าง NFTs
รายได้และกำไรของ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ Warrix
ปี 2564 รายได้ 658 ล้านบาท กำไร 14 ล้านบาท
6 เดือนแรกปี 2565 รายได้ 398 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท
ปัจจุบัน มีการประเมินกันว่า จำนวนคนไทยที่เล่นกีฬา ราว 16 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากจำนวนขึ้นตามลำดับ ด้วยแนวโน้มการรักษาสุขภาพ
ทำให้คนกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด ที่น่าสนใจ
และมีโอกาสที่จะเพิ่ม มูลค่าตลาดเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท ให้เติบโตไปได้อีก
ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ Warrix กำลังอยู่ในช่วงของการเสนอ IPO
คือนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป โดยบริษัทตั้งใจจะนำเงินจากการระดมทุน มาเสริมแกร่งระบบนิเวศของแบรนด์ให้ดีกว่าเดิม
โดยการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา พัฒนาศูนย์สุขภาพ และออกกำลังกาย ก่อสร้างสำนักงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า หลังจากนี้ Warrix จะมีทิศทางการเติบโตเป็นอย่างไร
หลังจากจดทะเบียน เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.