ย้อนรอยความสำเร็จ สิงห์ เลมอนโซดา New S-Curve ครั้งสำคัญ ของบุญรอดฯ

ย้อนรอยความสำเร็จ สิงห์ เลมอนโซดา New S-Curve ครั้งสำคัญ ของบุญรอดฯ

28 พ.ย. 2022
หากวันนี้ลองเดินเข้าไปที่ตู้แช่สินค้ากลุ่มน้ำอัดแก๊ส (Carbonated Soft Drinks : CSD)
เราจะสังเกตเห็นว่า กลุ่มน้ำอัดแก๊สกระป๋องแบบไม่มีน้ำตาล (Zero Can Sugar CSD) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
สอดคล้องกับข้อมูลปี 2564 ที่พบว่า กลุ่มน้ำอัดแก๊สแบบไม่มีน้ำตาล (Zero Sugar CSD) เติบโตขึ้นถึง 40.2%
ที่น่าสนใจคือ เครื่องดื่มกลุ่มน้ำอัดแก๊สกระป๋องแบบไม่มีน้ำตาล โดยเฉพาะ “รสเลมอน”
ปัจจุบัน เริ่มมีคู่แข่งมากหน้าหลายตา ต่างตบเท้าเข้ามาเล่นในตลาดนี้
แต่ถ้าถามว่า ใครเป็น Top of Mind ของเครื่องดื่มน้ำอัดแก๊สกระป๋องแบบไม่มีน้ำตาล รสเลมอน แบรนด์ที่ทุกคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ในใจ ก็น่าจะมี สิงห์ เลมอนโซดา อยู่แน่นอน
แล้วการมาของเทรนด์เลมอนในกลุ่มเครื่องดื่ม เกิดขึ้นตอนไหน ?
การมาของเทรนด์เลมอนในกลุ่มเครื่องดื่ม เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์บรรจุขวดแก้วเริ่มเป็นที่รู้จัก และหลาย ๆ แบรนด์ก็ใช้ “เลมอน” เป็นตัวชูโรง
ด้วยความที่เลมอนเป็นตัวแทนของความสดชื่น และมีวิตามินซีที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้หลายแบรนด์นิยมนำเลมอนมาเป็นส่วนผสม และบ่อยครั้งก็ถูกนำมาเป็นพระเอก ในเครื่องดื่มหลากหลายประเภท
จนมาถึงวันที่ บุญรอดฯ ตัดสินใจที่จะต่อยอดธุรกิจ Non-Alcohol ของตัวเอง ด้วยการปล่อย สิงห์ เลมอนโซดา ออกมา ในช่วงปลายปี 2563 หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19
ณ เวลานั้น นับว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะมีการเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ต
ทำให้เกิดความไม่แน่นอน ในการวางขายผลิตภัณฑ์ใหม่
แต่ผลตอบรับของ สิงห์ เลมอนโซดา ก็ดีเกินคาด จนนับว่าเป็น New S-Curve ครั้งสำคัญ ของบุญรอดฯ เลยก็ว่าได้
แล้ว Key Success ของ สิงห์ เลมอนโซดา เกิดจากอะไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
1) การค้นพบ Unmet Need ในธุรกิจเครื่องดื่ม
ถึงแม้บุญรอดฯ จะเปิดตัว สิงห์ เลมอนโซดา ในช่วงปลายปี 2563 หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19
แต่ก็สอดคล้องกับพฤติกรรม New Normal ที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ดังนั้น การที่บุญรอดฯ เปิดตัว สิงห์ เลมอนโซดา เครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น ปราศจากน้ำตาลและไม่มีแคลอรี จึงบ่งบอกถึงความเข้าใจในตลาด และการสร้างกระแสความต้องการของผู้บริโภคไว้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ จนนับว่าเป็น New S-Curve ของธุรกิจ
การจะทำให้เกิด New S-Curve ในธุรกิจได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่แบรนด์เปิดใจรับฟัง “เสียงของลูกค้า”
หากตั้งใจฟังให้ดี เราจะค้นพบว่า ความต้องการ “ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน” คืออะไร
ซึ่งในภาษาธุรกิจ จะเรียกว่า Unmet Need หมายถึง ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม
เมื่อเก็บรวบรวม “เสียงของลูกค้า” ได้จำนวนหนึ่งแล้ว ก็นำข้อมูลมาวิเคราะห์ และวางกลยุทธ์ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งจะทำให้เราคาดเดาเทรนด์ความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แม่นยำขึ้นนั่นเอง
2) ความเชื่อมั่นในแบรนด์
หากเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ และยังไม่เป็นที่รู้จัก สิ่งที่จะต้องสร้างให้ได้เป็นอย่างแรก ก็คือ “ความเชื่อมั่น”
แต่ด้วยความเป็นบุญรอดฯ ที่เน้นในเรื่องคุณภาพสินค้า มาตรฐานการผลิต และเป็นบริษัทที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 89 ปี ทำให้เกิดความเชื่อมั่น และการยอมรับในตัวสินค้าได้ง่าย
ยิ่งเมื่อผู้บริโภคได้ลอง สิงห์ เลมอนโซดา แล้วติดใจในรสชาติ จึงเกิดการบอกต่อ และซื้อซ้ำในระยะยาว
เกิดเป็น Top of Mind ที่เมื่อใด ที่คนนึกถึงเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น ปราศจากน้ำตาลและแคลอรี ก็จะนึกถึง สิงห์ เลมอนโซดา เป็นแบรนด์แรก นั่นเอง
3) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ทันสมัย
ต้องยอมรับว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Personality) ของ สิงห์ เลมอนโซดา คือความว่องไว รวดเร็ว ทันสมัย และเข้ากับคนรุ่นใหม่
สะท้อนจากภาพความสำเร็จของ สิงห์ เลมอนโซดา ที่ติดตลาดภายในเวลาอันรวดเร็ว และการต่อยอดรสชาติใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ยูซุและเรดเลมอน
และล่าสุดกับการคอลแลบกับ Smiley World ไอคอนหน้ายิ้มอันโด่งดังระดับโลก ที่ทำให้แบรนด์มีความสนุก และสดใหม่อยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้ เราอาจสรุปได้ว่า Key Success ของ สิงห์ เลมอนโซดา คือการมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจเครื่องดื่ม จากการรับฟัง “เสียงของลูกค้า” และ “ความกล้า” ในการนำเสนอสิ่งใหม่ให้กับตลาด
ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ สิงห์ เลมอนโซดา หากเปรียบเป็นคนหนึ่งคนก็คือ วัยรุ่นที่มีความสนุก ทันสมัย และไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับทุกคน
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.