
ทำไม Nescafé ต้องทำ “คาเฟงีบหลับ” ทั้งที่ตัวเอง ขายกาแฟ
16 ต.ค. 2022
ทำไม Nescafé ต้องทำ “คาเฟงีบหลับ” ทั้งที่ตัวเอง ขายกาแฟ | BrandCase
หากพูดถึงเนสกาแฟ เราก็รู้อยู่แล้วว่าเขาขายกาแฟ ซึ่งคนที่อยากดื่มกาแฟ ก็เพราะอยากตาตื่น มีแรงทำงาน
แต่รู้หรือไม่ว่า แบรนด์เนสกาแฟ กลับทำเรื่องน่าแปลกใจ คือเปิดคาเฟให้คนมางีบหลับ ในประเทศญี่ปุ่น
แต่รู้หรือไม่ว่า แบรนด์เนสกาแฟ กลับทำเรื่องน่าแปลกใจ คือเปิดคาเฟให้คนมางีบหลับ ในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งต้องเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ก่อนว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทำงานหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ ทำให้ช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อนนั้นหดหายไป
ข้อมูลจาก World Economic Forum บอกว่า ค่าเฉลี่ยการนอนของคนญี่ปุ่นคือ 6 ชั่วโมง 35 นาทีต่อคืน ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 1 ชั่วโมง
ลองคิดเล่น ๆ ว่าหากจะมีคาเฟสำหรับงีบหลับ พักสายตา และคลายความอ่อนล้าจากวันทำงาน ก็คงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับที่ญี่ปุ่น
เมื่อเป็นแบบนี้ Nescafé แบรนด์กาแฟระดับโลก ของบริษัท Nestlé จึงได้ผุดไอเดียเปิด “Nescafé Sleep Café” เพื่อให้บริการลูกค้าที่อดหลับอดนอน ให้ได้แวะมางีบหลับ
แต่ก่อนจะเปิดคาเฟงีบหลับแบบเต็มรูปแบบ Nescafé ได้ทดลองเปิดในรูปแบบ Pop-Up Café ก่อน
โดยเปิดที่ฮาราจูกุ ในปี 2017 และที่กินซะ ในปี 2018
โดยเปิดที่ฮาราจูกุ ในปี 2017 และที่กินซะ ในปี 2018
ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากจากบรรดากลุ่มคนทำงาน ที่ต้องการหาสถานที่สำหรับงีบหลับ และพักสมองชั่วคราว
สิ่งที่สังเกตได้ก็คือ การเปิด Pop-Up Café นอกจากจะเป็นการศึกษาตลาด และหาทำเลแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ อีกด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน ในปี 2019 Nescafé ก็ได้เปิด Nescafé Sleep Café ที่โออิมาจิ และในปี 2021 ที่ฮาราจูกุ แบบเต็มรูปแบบ ในรูปแบบร้านกาแฟสุดพิเศษ
เพื่อสร้างประสบการณ์การนอน และงีบหลับ ท่ามกลางบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อน พร้อมกับกาแฟของ Nescafé ระดับพรีเมียม
เพื่อสร้างประสบการณ์การนอน และงีบหลับ ท่ามกลางบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อน พร้อมกับกาแฟของ Nescafé ระดับพรีเมียม
แล้วสงสัยไหมว่า Nescafé เห็นอะไร จึงตัดสินใจทำ “คาเฟงีบหลับ” ขึ้นมาจริง ๆ ?
1.ขยายฐานลูกค้าคอกาแฟ ที่ต้องการงีบหลับ ไม่ได้ต้องการตาสว่าง
ช่องว่างของตลาดคาเฟที่หลายคนมองไม่เห็นคือ การทำให้ลูกค้าเข้ามาพักผ่อน ดื่มเครื่องดื่ม พูดคุยกัน แต่ไม่ใช่การงีบหลับ..
แต่เพราะพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นที่ทำงานหนักจนไม่ค่อยได้นอน
ทำให้คาเฟงีบหลับของ Nescafé จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการงีบหลับเพียงชั่วครู่ ในช่วงเวลากลางวัน บางครั้งเพียงแค่ 30 นาที หรืออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
ทำให้คาเฟงีบหลับของ Nescafé จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการงีบหลับเพียงชั่วครู่ ในช่วงเวลากลางวัน บางครั้งเพียงแค่ 30 นาที หรืออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ คือการ “ดื่มแล้วงีบ” หรือที่เรียกว่า “Nappuccino”
คำว่า Nap แปลว่า งีบ กับคำว่า Cappuccino ที่เป็นกาแฟแบบหนึ่ง มารวมกัน
โดยวิธีการก็คือ เราจะต้องดื่มกาแฟเข้าไปก่อน แล้วค่อยงีบหลับได้ไม่เกิน 20 นาที เพราะหลังจาก 20 นาที กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ ซึ่งจะพอดีกับจังหวะที่เราตื่นขึ้นมาพอดี
คำว่า Nap แปลว่า งีบ กับคำว่า Cappuccino ที่เป็นกาแฟแบบหนึ่ง มารวมกัน
โดยวิธีการก็คือ เราจะต้องดื่มกาแฟเข้าไปก่อน แล้วค่อยงีบหลับได้ไม่เกิน 20 นาที เพราะหลังจาก 20 นาที กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ ซึ่งจะพอดีกับจังหวะที่เราตื่นขึ้นมาพอดี
ซึ่งก็มีผลการศึกษา ทั้งจากประเทศญี่ปุ่น และจากอังกฤษ ที่บอกว่าวิธีนี้ จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้ดีที่สุด ทำให้มีสมาธิและสามารถโฟกัสกับงานหรือสิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าการดื่มกาแฟ หรืองีบหลับเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น Nescafé Sleep Café คาเฟที่ออกแบบมาเพื่อการงีบหลับโดยเฉพาะ จึงเป็นสถานที่ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจที่จะใช้บริการนอนหลับได้อย่างสบายใจมากกว่า
และดูไม่น่าเกลียดที่จะหลับในที่สาธารณะด้วย
และดูไม่น่าเกลียดที่จะหลับในที่สาธารณะด้วย
2.นอนแบบคุณภาพ ผ่อนคลายด้วยเครื่องดื่มคุณภาพ
ภายใน Nescafé Sleep Café จะมีบริการให้ลูกค้าเลือกงีบหลับอยู่ 2 รูปแบบ คือ
-นอนแบบเก้าอี้เอนหลัง
-นอนเป็นห้องเดี่ยวแบบเตียงนอนอย่างดี
โดยคิดค่าบริการตามระยะเวลา เริ่มต้นที่ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง และสามารถขยายเวลาต่อได้ทุก ๆ 30 นาที
-นอนแบบเก้าอี้เอนหลัง
-นอนเป็นห้องเดี่ยวแบบเตียงนอนอย่างดี
โดยคิดค่าบริการตามระยะเวลา เริ่มต้นที่ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง และสามารถขยายเวลาต่อได้ทุก ๆ 30 นาที
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ
เช่น Philips Hue Go โคมไฟอัจฉริยะที่ปรับแสง เพื่อสร้างบรรยากาศในการนอนหลับ
หรือ Smart Sleep Mask หน้ากากนอนหลับ ที่ช่วยปิดกั้นแสงทุกชนิด ที่อาจรบกวนขณะพักผ่อน
เช่น Philips Hue Go โคมไฟอัจฉริยะที่ปรับแสง เพื่อสร้างบรรยากาศในการนอนหลับ
หรือ Smart Sleep Mask หน้ากากนอนหลับ ที่ช่วยปิดกั้นแสงทุกชนิด ที่อาจรบกวนขณะพักผ่อน
ที่น่าสนใจก็คือ นอกจากจะได้รับการนอนหลับแบบคุณภาพตามที่เราเลือกแล้ว
ยังจะได้รับกาแฟระดับพรีเมียมของ Nescafé ทั้งก่อนนอนในรูปแบบที่ไม่มีกาเฟอีน และหลังตื่นนอนในรูปแบบที่มีกาเฟอีน
เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าหลังการพักผ่อน และพร้อมลุยงานต่ออีกด้วย
ยังจะได้รับกาแฟระดับพรีเมียมของ Nescafé ทั้งก่อนนอนในรูปแบบที่ไม่มีกาเฟอีน และหลังตื่นนอนในรูปแบบที่มีกาเฟอีน
เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าหลังการพักผ่อน และพร้อมลุยงานต่ออีกด้วย
3.เจาะโลเคชันใกล้สถานีรถไฟ
แน่นอนว่า นอกจากลูกค้าส่วนใหญ่ คือวัยทำงานแล้ว การใช้โลเคชันใกล้สถานีรถไฟ ยังเป็นการช่วยเพิ่ม Traffic ได้อีกด้วย
เพราะ Nescafé ไม่ได้ต้องการเจาะกลุ่มเพียงแค่คนวัยทำงานเท่านั้น แต่ยังมีทั้งกลุ่มคนที่ต้องเดินทางไกล หรือคนทั่วไปที่อยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่มกาแฟ
ปัจจุบันนี้ Nescafé ยังมีแพลนสร้างบูทห้องงีบหลับ ภายในสถานี JR East
โดยภายในห้องจะมีเก้าอี้งีบหลับ และตู้กาแฟจาก Nescafé เพื่อให้คนที่เข้ามาพักได้มีเวลาผ่อนคลายสักครู่หนึ่ง ก่อนไปทำงาน หรือเดินทางต่อ
โดยภายในห้องจะมีเก้าอี้งีบหลับ และตู้กาแฟจาก Nescafé เพื่อให้คนที่เข้ามาพักได้มีเวลาผ่อนคลายสักครู่หนึ่ง ก่อนไปทำงาน หรือเดินทางต่อ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ สังเกตไหมว่าการเปิดคาเฟงีบหลับของ Nescafé
ไม่เพียงแค่ต้องการแก้ Pain Point การนอนหลับของคนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจจากช่องว่างในตลาดคาเฟ อีกด้วย
ไม่เพียงแค่ต้องการแก้ Pain Point การนอนหลับของคนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจจากช่องว่างในตลาดคาเฟ อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจมองว่า คาเฟ ควรจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจาก “อาหารและเครื่องดื่ม”
แต่ตอนนี้ก็คงเห็นแล้วว่า สำหรับ Nescafé กลับสร้างรายได้จาก “การนอนหลับ” ของคนญี่ปุ่นในที่สาธารณะ ได้โดยไม่ต้องเขินอาย..
แต่ตอนนี้ก็คงเห็นแล้วว่า สำหรับ Nescafé กลับสร้างรายได้จาก “การนอนหลับ” ของคนญี่ปุ่นในที่สาธารณะ ได้โดยไม่ต้องเขินอาย..
References
-https://www.weforum.org/agenda/2019/04/which-countries-get-the-most-sleep-and-how-much-do-we-really-need
-https://soranews24.com/2018/04/14/recent-study-once-again-ranks-japan-as-the-country-that-sleeps-the-least/
-https://grapee.jp/en/110476
-https://suimin-cafe.jp/
-https://web.facebook.com/jgbthai/photos/a.293417530713593/5270594762995820/
-https://www.weforum.org/agenda/2019/04/which-countries-get-the-most-sleep-and-how-much-do-we-really-need
-https://soranews24.com/2018/04/14/recent-study-once-again-ranks-japan-as-the-country-that-sleeps-the-least/
-https://grapee.jp/en/110476
-https://suimin-cafe.jp/
-https://web.facebook.com/jgbthai/photos/a.293417530713593/5270594762995820/