กรณีศึกษา ทำไม GQ ถึงทำ กางเกงในไข่เย็น

กรณีศึกษา ทำไม GQ ถึงทำ กางเกงในไข่เย็น | BrandCase
ทุกวันนี้ มีสินค้าและบริการมากมาย ที่พยายามคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
โดยอาศัยการเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค หรือ Customer Insight มาผลิตเป็นสินค้าให้ตอบโจทย์
หนึ่งในสินค้า ที่ผู้ผลิตพยายามนำ Customer Insight มาพัฒนาอย่างจริงจัง คือ “กางเกงในไข่เย็น” ของ GQ Apparel
แล้ว GQ Apparel มองเห็นถึงปัญหา ที่อยู่ในที่ลับของผู้ชาย ได้อย่างไร ?
จุดเริ่มต้นของไอเดียนี้ ผู้บริหารฝ่ายการขายและการตลาดของ GQ Apparel บอกว่า
เริ่มหา Pain Point ของผู้บริโภค จากการเข้าไปพูดคุย และสอบถามปัญหากับกลุ่มผู้บริโภคผู้ชายโดยตรง
โดยเริ่มตั้งคำถามว่า
ผู้บริโภคมีปัญหาอะไร และต้องการแก้ไขอย่างไร ?
ทำไมผู้บริโภคต้องการแก้ไขปัญหานี้ ?
สินค้าที่ผู้บริโภคซื้อจากเราไป เขาจะนำไปใช้ตอบโจทย์อะไรได้บ้าง ?
และมันทำให้ GQ Apparel ได้เจอกับ “Unmet Need” หรือก็คือ ความต้องการที่อยู่ลึก ๆ ที่ผู้บริโภคเองก็มองข้ามไปของผู้ชายไทย
นั่นก็คือ อากาศที่ร้อน ทำให้รู้สึกไม่สบายบริเวณเป้า รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และมีกลิ่นเหม็นอับเพราะเหงื่อออก
อีกเรื่องสำคัญก็คือ ทุกครั้งที่พวกเขาเลือกซื้อกางเกงชั้นใน พวกเขาไม่ค่อยได้ทดลองไซซ์ ทำให้บางครั้งซื้อมาแล้วใส่ไม่พอดีตัว และต้องเสียเงินไปซื้อใหม่
จะเห็นได้ว่า Pain Point ที่ GQ Apparel ได้รับนั้น มีทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถูกแก้ไขได้ไม่ดีพอ อย่างปัญหาความไม่สะดวกสบายบริเวณใต้ร่มผ้า
กับอีกปัญหา คือการไม่สามารถทดลองไซซ์กางเกงชั้นในได้
จากจุดเริ่มต้นตรงนี้ จึงเป็นเหมือนการเปิดทางให้ GQ Apparel นำเสนอคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำเทคโนโลยีและดีไซน์มาผสานกัน เพื่อสร้างเป็นนวัตกรรมที่จะมาแก้ไข Pain Point ให้กับผู้บริโภคผู้ชาย
จนในที่สุดก็ได้มาเป็น GQ Cool Tech™ หรือ “กางเกงในไข่เย็น” ที่มีหลากหลายฟีเชอร์จากเทคโนโลยี
จนผู้บริโภคหลายคนเห็นแล้ว น่าจะเกิดภาพจำใหม่ว่า GQ Apparel เป็นแบรนด์ที่เข้าใจเรื่อง “เป้าผู้ชาย” มากที่สุด เลยทีเดียว..
และเราจะเห็นว่า นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ (Product) ที่เป็นจุดขายด้วยนวัตกรรมแล้ว ยังมีกระบวนการทดลองไซซ์
โดยการทดลองไซซ์ที่ว่า ก็คือ การที่เราสามารถไปทดลองสวมใส่กางเกงชั้นในที่ Shop ของ GQ ได้ด้วยตนเอง เพื่อหาไซซ์ที่ใช่ ซึ่งมีน้อยแบรนด์ ที่จะให้ผู้ชายทดลองสวมใส่กางเกงชั้นในก่อนซื้อ
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ GQ Apparel จะดีแค่ไหน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้บริโภคไม่ได้ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ เพียงเพราะประโยชน์ที่จะได้รับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะในมุมของการตลาด ยังมีเรื่อง “อารมณ์และความรู้สึก” ของผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ทำให้ GQ Apparel ต้องสื่อสารผลิตภัณฑ์ของเขาไปยังกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้ Digital Marketing โดยมีคอนเทนต์เป็นหัวใจในการสื่อสาร
ที่เด็ดสุดก็คือ การตั้งชื่อโปรดักต์ “กางเกงในไข่เย็น” ที่ใคร ๆ เห็นหรือได้ยินชื่อ ก็ไม่ต้องตีความอะไร เป็นการบอกอย่างตรง ๆ ไปเลยว่าขายกางเกงในสำหรับผู้ชาย ที่สวมใส่แล้วรู้สึกเย็นสบาย
ซึ่งการสื่อสารไปตรง ๆ ให้เข้าใจง่ายแบบนี้ ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคหลายคนสนใจ รู้สึกว้าว และตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในที่สุด
อ่านมาถึงตรงนี้ คงสรุปได้ว่า
การที่ GQ Apparel มาทำกางเกงในไข่เย็นนั้น เป็นเพราะการมองเห็นปัญหาที่ไม่มีใครมองเห็น และใช้จุดนี้ให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ
ที่สำคัญคือการสื่อสารให้ตรง ๆ และเร้าใจ ทำให้เมื่อคนได้ยินชื่อแล้วต้องเอาไปพูดต่อกัน
ว่าถ้าคุณผู้ชาย รู้สึกไม่สบายบริเวณเป้า รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และมีกลิ่นเหม็นอับเพราะเหงื่อออก
“กางเกงในไข่เย็น” ช่วยแก้ปัญหา ให้คุณได้..
References
- https://gqsize.com/pages/our-story
-https://www.baramizi.co.th/lab-research/%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA-unmet-need/
- https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/112547
- https://www.thansettakij.com/general-news/45785
-https://www.youtube.com/watch?v=Pn4OFpaHlS I