กรณีศึกษา แอทแทค รีแบรนด์ครั้งใหญ่ สลัดภาพลักษณ์เดิม ตีตลาดคนรุ่นใหม่

แอทแทค คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีอายุมาอย่างยาวนานถึง 36 ปี

เลยไม่แปลกใจที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง 
เพราะตั้งแต่หลายคนจำความได้ ก็เห็นชื่อแบรนด์นี้กันแล้ว..

อย่างไรก็ดี แอทแทค ได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อตีตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่

ด้วยการส่งมอบคุณค่าของสินค้าผ่านแนวคิด “Brighten Your Day with True Cleanliness” 
ที่จะทำให้การซักผ้าของทุกคนเป็นเรื่องง่าย ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ยุ่งยากให้เหลือเพียงขั้นตอนเดียว

พร้อมชูกลยุทธ์การตลาด Drive by New Product Value และ Drive by Presenter & Friends of Attack เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่

การรีแบรนด์ครั้งใหญ่ของแอทแทค มีความน่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

แอทแทค ตั้งเป้าหมายเป็น Top of Mind หรือการเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภคอันดับต้น ๆ
ทำให้ทางบริษัทกลับมาศึกษากลุ่มผู้บริโภค และวางแผนกลยุทธ์อย่างจริงจัง

ซึ่งพบว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือ คุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วย (Working Mom) 
และคู่รักยุคใหม่ที่ไม่มีลูก หรือก็คือ Dual Income, No Kids. (DINKs) 

รวมถึงมีอีกกลุ่มเป้าหมายรอง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองหาสินค้าที่ช่วยให้พวกเขาใช้ชีวิตง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น

โดยทั้ง 3 กลุ่มเป้าหมาย มีพฤติกรรมที่คล้ายกันคือ ไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะต้องไปทำงาน หรือไม่ก็เรียนหนังสือ

เมื่อพวกเขากลับบ้าน ก็ต้องการการพักผ่อน และไม่อยากเสียเวลาในการทำงานบ้าน

​แอทแทค จึงตั้งโจทย์หาทางเลือกที่สามารถช่วยให้ผู้คนประหยัดเวลา และไม่เปลืองแรง ​ แต่ยังสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม เพื่อเอาเวลาชีวิตไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ บริษัทเลยได้ทำการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ซักผ้าใหม่ทั้งหมด โดยใช้เทคโนโลยีไมโครวอช (Microwash) ​ประกอบด้วย สารทำความสะอาด และเอนไซม์สูตรเข้มข้น

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ บริษัทเลยออกน้ำยาซักผ้าสูตรใหม่ที่มีเทคโนโลยีไมโครวอช (Microwash) 
ประกอบด้วย สารทำความสะอาด และเอนไซม์สูตรเข้มข้น

ซึ่งสาร 2 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติซอกซอนลึกถึงใยผ้า สามารถสลายคราบฝังแน่นได้ดี
ทำให้ผ้าที่ซักนั้นสะอาด โดยไม่ต้องแช่ หรือไม่ต้องขยี้ ลืมวิธีการซักผ้าแบบเดิม ๆ ไปได้เลย 

โดยน้ำยาซักผ้าแอทแทคสูตรใหม่ ออกมาให้เลือกถึง 4 กลิ่น
ได้แก่ คลีนแอดวานซ์, ชาร์มมิ่ง โรมานซ์, เลดี้ อิลิแกนท์ และรีแล็กซิง โบทานิค

ที่น่าสนใจคือ สูตรใหม่นี้ถูกพัฒนาให้ใช้ได้ ทั้งสำหรับเครื่องซักผ้าทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นฝาบนหรือฝาหน้า

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแอทแทคสูตรใหม่ ยังสนับสนุนแนวคิด ESG (Environment Social Governance) หรือความยั่งยืน​

โดยการลดปริมาณการใช้สารเคมีลง โดยใช้เอนไซม์จากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้อย่างน้ำมันปาล์ม รวมถึงปรับบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้พลาสติกลงได้ถึง 38 ตันต่อปี

นอกจากสินค้าที่มีการพัฒนาและยกระดับไปอีกขั้นแล้ว แอทแทคยังมุ่งเน้นด้านการตลาดด้วย​ 
โดยวางแผนทั้งฝั่งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้สูงสุด

เริ่มจากช่องทางออฟไลน์อย่างโฆษณาโทรทัศน์, Billboard รวมถึงสื่อหน้าร้านทั่วทั้งกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ที่มาสร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ 

รวมถึงการมีพรีเซนเตอร์ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคอย่าง หมาก-ปริญ นักแสดงหนุ่มที่หลายท่านรู้จักดี และ Friends of Attack อย่าง เต ตะวัน และคริส พีรวัส​ ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ 

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะสื่อว่า งานซักผ้าเป็นเรื่องง่าย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ นั่นเอง… 

และเมื่อไม่นานมานี้ หมาก-ปริญ ก็ได้มาร่วมงาน “แอทแทคใหม่ เปิดประสบการณ์ซักที่ง่ายกว่า” ด้วย 
ความน่าสนใจของงานนี้อยู่ในช่วงสาธิตการใช้สินค้าแบบสด ๆ

ภายในงาน หมาก-ปริญได้ป้ายคราบช็อกโกแลต และคราบซอสมะเขือเทศบนเสื้อขาว
หลังจากนั้นเขาก็โยนผ้าลงในเครื่องซักผ้า แล้วใส่น้ำยาซักผ้าแอทแทคใหม่ตามลงไป

พอครบเวลา ผลปรากฏว่า คราบบนเสื้อได้หายไปแล้วจริง ๆ 
นับว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านคุณภาพของแอทแทคที่น่าสนใจเลยทีเดียว

ซึ่งจากงานครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีไมโครวอชในแอทแทคใหม่ สามารถทำความสะอาดคราบได้อย่างหมดจด ไม่ต้องแช่ไม่ต้องขยี้ แค่กดซัก นอกจากนั้นผ้ายังหอมอีกด้วย

ขณะที่ในโลกออนไลน์ บริษัทก็ผลักดันโปรโมชั่น และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บริโภคเพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย

สาเหตุที่แอทแทค รุกหนักในครั้งนี้ ​ 
เพราะตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการที่ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ หลังเกิดวิกฤติโรคระบาด

โดยมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ซักผ้าปี 2022 อยู่ที่ 18,300 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ซึ่ง Segment ที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วจนน่าสนใจคือ น้ำยาซักผ้า โดยมูลค่าตลาดอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 20% เลยทีเดียว

​น้ำยาซักผ้าเป็นที่ชื่นชอบ มาจากการที่มันตอบโจทย์ทั้ง 2 ด้าน

- Functional หรือ ตอบโจทย์ด้านความสะอาด ประสิทธิภาพในการขจัดคราบ และกลิ่นหอม
- Emotional หรือ ด้านความรู้สึก ความสะดวก และช่วยประหยัดเวลา

จากข้อมูลที่เล่ามา จะเห็นได้ว่า แอทแทค ให้ความสำคัญกับน้ำยาซักผ้าเป็นอันดับ 1

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2023 ไว้ที่ 3,220 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12% จากปีก่อน

​ส่วนในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าเป็นแบรนด์เบอร์ 2 ในตลาดน้ำยาซักผ้า​ ​

​สุดท้ายแล้ว แม้ไม่รู้ว่าในอนาคต แอทแทค จะสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่

​แต่ที่แน่ ๆ การมาชิงบัลลังก์ครั้งนี้ของ แอทแทค จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้า ไม่น้อยเลยทีเดียว..