ทำไม รถยนต์ไฟฟ้า ถึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เติบโตไปด้วย ?

ทำไม รถยนต์ไฟฟ้า ถึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เติบโตไปด้วย ?

28 เม.ย. 2022
ทำไม รถยนต์ไฟฟ้า ถึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เติบโตไปด้วย ? | BrandCase
ในปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน หรือญี่ปุ่น
อันเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มีแนวโน้มบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยเสริม ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐสนับสนุน หรือประสบการณ์ขับขี่ที่ดี จากเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของรถยนต์ไฟฟ้า
ที่ผ่านมา เราอาจเห็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เหล่าผู้ผลิต ต่างพัฒนาเทคโนโลยี และสมรรถนะของรถมาแข่งขันกัน เช่น เจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Autopilot ที่ล้ำหน้าผู้ผลิตรายอื่นไปไกล, ค่ายรถเกิดใหม่ที่น่าจับตามองในจีน รวมถึงค่ายรถเจ้าตลาดดั้งเดิม ที่กำลังเร่งฝีเท้าเพื่อบุกตลาดนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” จะพัฒนาไปขนาดไหน
สุดท้ายแล้วรถยนต์ก็ไม่ใช่ยานพาหนะ ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทางของมนุษย์ได้ครบอยู่ดี
จึงกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้ “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า” ได้มีโอกาสเติบโต และกำลังจะกลายเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ไม่แพ้รถยนต์ไฟฟ้าเลยทีเดียว
แล้วมีปัจจัยอะไรบ้าง ที่จะทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เติบโต ?
- การแข่งขันที่ดุเดือดของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหลาย ทำให้โครงสร้างพื้นฐาน สำหรับพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานีชาร์จ และศูนย์บริการที่มากขึ้น
รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่ก็ได้รับอานิสงส์และการลงทุนไปด้วย
โดยที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างตั้งเป้าและเดินหน้าเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้า และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมในหลาย ๆ พื้นที่
- ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จะไม่ใช่แค่กระแส แต่จะกลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะกฎหมายที่หลายประเทศเริ่มบังคับใช้
โดย ณ ปัจจุบันมี 27 ประเทศในยุโรป ที่เล็งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายในปี 2035
ซึ่งก็ครอบคลุมไปถึงการใช้งานรถจักรยานยนต์ด้วย
- ภาครัฐให้การสนับสนุนยานพาหนะไฟฟ้า ซึ่งก็ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าด้วย
อย่างเช่นในประเทศไทย ภาครัฐก็ประกาศมาตรการลดภาษีฯ และให้เงินอุดหนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นจำนวน 18,000 บาทต่อคัน
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เริ่มได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น และตลาดมีการเติบโตสูง
​​โดยในปี 2564 ประเทศไทย มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV ถึง 3,778 คัน เติบโตขึ้น 137% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ซึ่งมีแบรนด์เจ้าตลาดคือ Deco, H SEM, NIU
- ผู้เล่นรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Honda หรือ Yamaha เริ่มให้ความสนใจตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง
ยกตัวอย่างเช่น Honda ที่ล่าสุดประกาศทุ่มเงินกว่า 5 ล้านล้านเยน (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) เพื่อพัฒนานวัตกรรม สำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
โดยจะมีการทดลองนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า บุกตลาดอินเดียอีกด้วย
จะเห็นได้ว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ได้รับผลประโยชน์จากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้น
ทั้งการแข่งขันและการทุ่มงบลงทุน ในการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ, แรงผลักดันทางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ยานพาหนะไฟฟ้ามากขึ้น
แม้ในปัจจุบัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอาจจะยังมีราคาที่สูง
และมีค่าบำรุงรักษาที่แพงในหลายประเทศ รวมไปถึงข้อเสียด้านระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จะยังน้อย
แต่ไม่ช้าก็เร็ว การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น จะทำให้แต่ละแบรนด์ แข่งกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง
จนทำให้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า วิ่งได้เร็วขึ้น ไกลขึ้น และแน่นอนว่า “ราคาจะถูกลง” จนเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
เชื่อว่าอีกไม่นาน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จะตอบโจทย์ด้านค่าใช้จ่ายและสิ่งแวดล้อม
และน่าจะได้รับความนิยมไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน..
References:
-https://www.bikesales.com.au/editorial/details/six-reasons-why-we-should-embrace-electric-motorcycles-129933/
-https://www.nytimes.com/2021/03/02/climate/electric-vehicles-environment.html
-https://www.mreport.co.th/news/statistic-and-ranking/334-new-electric-vehicles-registration-2021-december
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.