ธุรกิจอะไร ยอมขาดทุนก่อนให้คนลองใช้ แต่สุดท้ายไม่ได้กำไรอยู่ดี

ธุรกิจอะไร ยอมขาดทุนก่อนให้คนลองใช้ แต่สุดท้ายไม่ได้กำไรอยู่ดี | BrandCase
มีหลายคนบอกว่าสตาร์ตอัปที่ดี
เราต้องยอมขาดทุนก่อน แล้วค่อยทำกำไรทีหลัง
การขาดทุนก็เพื่อสร้างตลาด ให้มีฐานคนใช้งานเป็นจำนวนมาก
และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่เราครอบครองผู้ใช้งานได้มากพอแล้ว
เราก็จะสามารถสร้างรายได้มากพอจนมีกำไร
เรื่องนี้อาจเป็นจริงในบางธุรกิจ
ที่ต้องการ Network Effect ในการครองตลาด และผู้ใช้งานไม่สามารถหนีออกได้ เมื่อ Network Effect นั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
ตัวอย่างที่เราเห็นกันก็คือ
เฟซบุ๊ก - ผู้ใช้งานหนีออกจากระบบไม่ได้ เพราะมีเพื่อนและเพจที่ติดตามอยู่ในนั้น
ยูทูบ - ผู้ใช้งานคุ้นเคยและมีบุคคลที่ทำคอนเทนต์อยู่ในนั้นเป็นจำนวนมาก
กูเกิล - ผู้ใช้งานไว้ใจและเชื่อใจในการค้นหาข้อมูลที่เขาต้องการ
แต่สำหรับหลายธุรกิจ การยอมขาดทุนในตอนแรก อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีเสมอไป
และเมื่อวันใดก็ตามที่เราไม่ใช้จ่ายเงินเพื่อลดราคา ลูกค้าก็หนีเราไปอยู่ดี
ลูกค้าไม่แคร์ว่าจะใช้บริการของแบรนด์ไหน แต่ขอให้ได้บริการที่ถูกที่สุดก็เป็นพอ
ตัวอย่างที่เราเห็นกันก็คือ
สายการบิน - ผู้ใช้งานส่วนมาก จะเลือกสายการบินที่มีราคาถูกเสมอ โดยไม่สนใจว่าก่อนหน้านั้น เขาเคยใช้บริการสายการบินอะไรมา
การขนส่งพัสดุ - ร้านค้าแม่ค้า จะคำนึงถึงผู้ให้บริการที่คิดราคาถูกที่สุด (ภายใต้การจัดส่งที่มีคุณภาพที่รับได้) ถ้าคุณภาพพอ ๆ กัน ร้านค้าแม่ค้านั้นจะเลือกเจ้าที่ถูกกว่าเสมอ
ดังนั้นถ้าใครทำตลาดโดยการทุ่มตลาด ลดราคาในตอนแรก
จริงอยู่ที่เขาเหล่านั้นจะได้ลูกค้าไป แต่ผลสุดท้ายเมื่อหยุดทำโปรโมชัน
พวกเขาก็จะพบว่า เงินที่ทุ่มไป กลายเป็น ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หายวับไปกับตา..